SET สัปดาห์นี้ “ขึ้น” หลังหลายปัจจัยเสี่ยงปลดล็อค! แนะ KKP,ICHI,BGC หุ้นเด่น

Weekly outlook: “ขึ้น” ต้าน 1649/1660 จุด รับ 1620/1613 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (1131-25 ต.ค.62) นักลงทุนกลับเข้าสู่ภาวะ Risk on mode อีกครั้ง จากสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลง “Partial Trade Deal – Phase 1” โดยสหรัฐฯยอมเลื่อนขึ้นภาษีการค้า 2.5 แสนล้านเหรียญฯ 25% เป็น 30% ออกไปจาก 15 ต.ค. แลกเปลี่ยนกับจีนต้องซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐอีก 4-5 หมื่นล้านเหรียญฯ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ ายจะหารือกันในรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนที่ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะลงนามข้อตกลงดังกล่าวในการประชุม APEC ช่วง 16-17 พ.ย.

อย่างไรก็ดี ประเมิน mini Trade Deal Phase 1 ที่เกิดขึ้น สะท้อนท่าทีการค้าได้ผ่านจุดแข็งกร้าวสุดไปแล้ว เพิ่มโอกาสที่จะทยอยบรรลุข้อตกลงกันเพิ่มเติม ถือ เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ผสานความคืบหน้าประเด็น Brexit หลังยุโรปและอังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงร่าง Brexit ฉบับใหม่ได้แล้ว โดยรัฐสภาอังกฤษมีกำหนดลงมติรับร่าง นี้วันที่ 19 ต.ค. หากรับร่างจะออกจากสหภาพยุโรป 31 ต.ค. 2019

แต่ถ้าไม่รับร่าง ต้องขอยืดเวลาออกไปเป็น 31 ม.ค. 2020 ซึ่งในรายละเอียดหลังปรับเรื่อง IRIS Backstop ใหม่พบว่าจะมีความร่วมมือ 4 ข้อ คือ UK-EU ด้านการค้า/จุดตรวจ/ Vat/ลงมติใหม่ทุก 4 ปี ทำให้มีโอกาสสูงที่จะผ่านมติ ลดความเสี่ยง Hard Brexit ส่งผลค่าเงินปอนด์แข็งสู่ 1.287เหรียญฯ/ปอนด์ แข็งสุดในรอบ 5 เดือน กดดัน Dollar Index อ่อนค่า กระตุ้นเม็ดเงิน allocation มายังตลาด EM-Asia สอดคล้องสัญญาณ Fund flow ไหลเข้าตลาด EM-Asiaex China ในสัปดาห์ก่อนสูงถึง 2,193 ล้านเหรียญฯ มากสุดในรอบ 24 สัปดาห์ ถือเป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดเอเชียรวมถึงไทยได้

ด้านปัจจัยภายในประเทศ เข้าสู่ช่วงรายงานตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วงไตรมาส3/62 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่รายงานออกมาแล้ว ได้แก่ TISCO,LH,SCB,TMB พบว่ารายงานก าไรรวม 19,552.6ลบ. เติบโต 4.58%y-y และ 26.54%q-q คาดช่วยเพิ่ม Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทยได้

นอกจากนี้ติดตาม i) 21 ต.ค. รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย. ซึ่งมองว่ามีโอกาสฟื้นตัวได้จากฐาน ต่ำหลังวงจรกลุ่ม Memory และกลุ่มเทคโนโลยีเอเชียเริ่มมีสัญญาณพ้นจุดต่ำสุด

ii) 22ต.ค. ครม.เตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชิม-ช้อป-ใช้ เฟส 2 คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ iii) 24 ต.ค. เปิดขายซองประมูลสัญญาโครงการพัฒนาพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) สนามบินดอนเมือง iv) 25 ต.ค. กลุ่ม CPH กำหนดลงนามสัญญา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

ส่วนปัจจัยอื่นๆที่แนะนำติดตาม ได้แก่ การประชุม ECB วันที่ 24 ต.ค. ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายของนายมาริโอ ดรากีก่อนส่งต่อตำแหน่งประธาน ECBไปยังนางคริสตีน ลาการ์ด โดย Nomura และ Consensus คาดว่าจะคงนโยบายการเงินเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน: Global risk on หลังความเสี่ยงต่อ Downside เศรษฐกิจทยอยปลดล็อค แนะนำ PTT, PTTEP, TOP เด่น ผสานกระแสเงินเริ่มออกจาก สินทรัพย์ ปลอดภัย US Yield เด้งขึ้น ราคาทองคำเริ่มพักฐาน หนุน BANK (SCB, KBANK,BBL) กลุ่มที่ได้อานิสงค์จากดอกเบี้ยต่ำ ได้แก่ Consumer Finance: SAWAD,AMANAH, JMART และ High Yield: ADVANC, INTUCH, KKP ส่วนหุ้น Mid small ที่แนวโน้มกำไร Q3 และเป็นจุดรับที่ดี : BGC JMART STPI ICHI SPA JMT PSTC

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ KKP, ICHI, BGC ส่วนสัปดาห์ก่อน ADVANC, CPF, KKP ให้ ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.95% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้0.33%

1) BGC(TP18.6) : ผลประกอบการอยู่ในช่วงฟื้นตัว จากแนวโน้มการใช้ขวดเพิ่ม+ต้นทุนลง

2) ICHI(TP9.05) : งบกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ในจุดเติบโต หลังพ้นช่วงปรับตัวภาษีความหวาน

3) KKP (TP76) : หลุด SET50 เป็นโซนสะสมรอบใหม่ + Div yiled เกือบ 7%