“คมนาคม” สั่ง AOT ลุยโครงการ Terminal 2 สุวรรณภูมิ-คาดสรุปผลพ.ย.นี้ก่อนส่งสภาพัฒน์

“คมนาคม” สั่ง AOT ลุยโครงการ Terminal 2 สุวรรณภูมิ-คาดสรุปผลพ.ย.นี้ก่อนส่งสภาพัฒน์


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเดินทางตรวจเยี่ยม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ว่า AOT มีแผนงานพัฒนาท่าอากาศยาน 6 แห่งภายใต้การบริหาร ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ และ เชียงราย เพื่อรองรับผู้เข้ามาใช้บริการในอีก 20 ปีข้างหน้าให้ได้ 180 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยว 150 ล้านคน และผู้โดยสารในประเทศ 30 ล้านคน

ปัจจุบันทุกท่าอากาศยานมีผู้เข้ามาใช้บริการเกินกว่าความสามารถรองรับได้ โดยสนามบินสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 64.71 ล้านคน/ปี จากที่รองรับได้ 45 ล้านคน/ปี สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสาร 41.01 ล้านคน/ปี แต่รองรับได้ 30 ล้านคน/ปี สนามบินภูเก็ต มีผู้โดยสาร 17.85 ล้านคน/ปี จากที่รองรับได้ 12.5 ล้านคน/ปี สนามบินเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 11.32 ล้านคน/ปี จากที่รองรับได้ 8 ล้านคน/ปี สนามบินหาดใหญ่มีผู้โดยสาร 4.03 ล้านคน/ปี จากที่รองรับได้ 2.5 ล้านคน/ปี และสนามบินเชียงราย มีผู้โดยสาร 2.95 ล้านคน/ปี จากที่รองรับได้ 3 ล้านคน/ปี

รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนขยายทางทิศเหนือ (Terminal 2) มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท คาดว่า AOT จะสามารถสรุปโครงการให้กระทรวงคมนาคมภายในเดือนพ.ย.62 หลังจากชี้แจงให้กับกลุ่มต่างๆ รับทราบ  โดยล่าสุดได้ชี้แจงสภาสถาปนิกแล้ว จากนั้นส่งให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) หากได้รับความเห็นชอบแล้วจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จไม่เกินปี 65

“การพัฒนาท่าอากาศยานจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ว่ามีความจำเป็นพัฒนารูปแบบอย่างไร สื่อสารหลายทาง และต้องกล้าตัดสินใจถ้าข้อมูลถูกต้องเป็นประโยชน์.” รมว.คมนาคม กล่าว

นอกจากนี้. AOT ยังมีแผนพัฒนาสนามบินภูเก็ต 2 และเชียงใหม่ 2 รวมทั้งการเข้าบริหารสนามบินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.). 4 แห่ง ได้แก่ อุดรธานี กระบี่ แม่สอด และ บุรีรัมย์ ที่นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะบริหารรูปแบบใด ระหว่างรับจ้างบริหาร (Contract Management) หรือ โอนสินทรัพย์เข้ามาบริหาร

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ AOT บริหารพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาคาร และลานจอดรถ ให้เกิดประสิทธิภาพ และช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) พร้อมทั้งให้พิจารณาการลดค่าธรรมเนียมค่าจอดอากาศยานและค่าขึ้นลงอากาศยานให้กับเครื่องบินเช่าเหมาลำ 50% ในช่วง 3 เดือนนี้ในเบื้องต้นเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยหากสนามบินหลักไม่มี slot ก็ให้พิจารณาลงสนามบินรอง แต่หากเที่ยวบินใดที่ยกเลิกให้สั่งปรับเพราะถือว่าทำให้สนามบินเสียโอกาส

Back to top button