พาราสาวะถี

อรชุน

ถ้ามองเห็นถึงข้อผิดพลาดบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจสิถึงจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ การที่ออกมาหลับหูหลับตาบอกว่ามองไม่เห็นข้อเสียใด ๆ ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะขนาดอยู่ในเพศบรรพชิตที่บวชหนีอะไรซักอย่างหลังการก่อม็อบล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ ยังไม่วายออกมาเชียร์และปกป้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไม่ลืมหูลืมตา จนลืมไปว่านั่นไม่ใช่กิจของสงฆ์

หนนี้ก็เช่นกัน เมื่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มขยับกันหนักหน่วงขึ้น ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองที่แม้แต่ตัวเองก็ยังรักษาสัจจะที่เคยประกาศไว้คราวนำม็อบว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองไม่ได้ ดังนั้น ทุกคำพูดทุกการกระทำของเทพเทือกคนที่จะเชื่อก็มีแต่พวกที่ก้มหน้าก้มตาเชียร์เท่านั้น ส่วนคนทั่วไปรู้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งที่ได้ไปนั้นมันคงทดแทนบุญคุณเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่จบไม่สิ้น แต่อย่าเอามวลมหาประชาชนไปอ้างเพื่อปกปิดข้อผิดพลาดของการเขียนกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ไม่ได้มีเพียงแต่คนอย่างเทพเทือกเท่านั้น บรรดาลิ่วล้อหรือพวกที่ได้ประโยชน์จากอำนาจเผด็จการ ต่างก็พากันออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจกันหน้าสลอน ล่าสุด ก็เป็นรายของ วันชัย สอนศิริ ที่ระบุว่าพวกที่อยากแก้รัฐธรรมนูญคือพวกดัดจริต เพราะอยากแก้มือเนื่องจากแพ้เลือกตั้ง และเป็นพวกที่กระสันอำนาจอยากมีอำนาจ แน่นอนว่า ประเด็นหลังคงหมายถึงพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย แต่เรื่องแรกคือพวกแพ้เลือกตั้งนั้น วันชัยคงต้องหันไปมองผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าใครกันแน่ที่แพ้

แล้วเหตุที่พวกแพ้เลือกตั้งสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ไม่ใช่เพราะส.ว.ลากตั้งที่ผ่านการเลือกมาโดยคนที่เป็นผู้นำประเทศอยู่เวลานี้หรอกหรือ มากไปกว่านั้น คำถามพ่วงที่ให้ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ นั้นก็เป็นการชงและคิดคำถามโดยวันชัยเองมิใช่หรือ ที่ไปเที่ยวโพนทะนาขอเสียปรบมือให้กับตัวเองจนโด่งดังในโลกโซเชียล ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา เสียดายความเป็นนักกฎหมายที่เคยอ้างตัวว่าช่วยเหลือประชาชน แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีอำนาจอันไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนผ่านเข้ามาก็รีบกระโดดงับทันที

ด้วยเหตุนี้ ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มแรกที่วันชัยพาดพิงว่าเป็นพวกแพ้เลือกตั้งแล้วอยากแก้มือ จึงได้โต้กลับว่า วันชัยคงจะมีความเข้าใจในรัฐธรรมนูญเฉพาะส่วนที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้น ถ้าลองตั้งสติเสียหน่อยก็จะพบว่ารัฐธรรมนูญในหลายมาตรานั้นมีข้อบกพร่องอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งประเด็นอย่างนี้คนที่ได้ดีจากปลายกระบอกปืนคงมองไม่เห็นหัวประชาชนอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม คนในซีกของพรรคเก่าแก่พยายามที่จะเลี่ยงการปะทะคารมกับฝ่ายที่เห็นต่าง เนื่องจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พรรคเสนอให้นั่งเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ประกาศชัดเจนว่าการเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวยินดี แต่ก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้น ท่วงทำนองของคนที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้คงต้องเป็นแบบนี้ ทว่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องย่อมต้องออกมาปกป้องสิทธิของพรรคและตัวเองที่ถูกพาดพิงเต็มที่

เหมือนที่ เทพไท เสนพงศ์ ออกมาตอบโต้ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคสืบทอดอำนาจที่กล่าวหาว่าเป็นส.ส.หลายสมัยไม่เคยมีผลงาน โดยส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคเก่าแก่ก็ตอกกลับเบาะ ๆ แค่ว่า คนที่กล่าวหาเป็นส.ส.มา 5 เดือนมีผลงานคือการโชว์กร่างที่โด่งดังไปทั่วโซเชียลมีเดีย ถือเป็นประเด็นเล็กน้อยกับสิ่งที่สิระพาดพิงเทพไท แต่สิ่งที่น่าสนใจและต้องขีดเส้นใต้มากกว่าคือ ทำไมคนของพรรคเผด็จการสืบทอดอำนาจจึงมากัดพวกเดียวกันเอง

นั่นเป็นเพราะเทพไทคือบุคคลที่เสนอญัตติของพรรคเก่าแก่เพื่อให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และดูเหมือนว่าจะเอาจริงเอาจังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังพาดพิงไปถึงผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในลักษณะที่ขอให้ไปสั่งพรรคสืบทอดอำนาจช่วยถอนรายชื่อคนที่จะมาชิงเก้าอี้ประธานกรรมาธิการชุดนี้ เพื่อเปิดทางให้อภิสิทธิ์ได้เข้าสู่ตำแหน่งโดยไร้คู่แข่ง ยิ่งปฏิกิริยาของคนพรรคแกนนำรัฐบาลออกมามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เห็นความไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญมากเท่านั้น

เหมือนเช่นรายชื่อกรรมาธิการในส่วนของคณะรัฐมนตรี ที่เห็นกันแล้วก็ร้องไอ้หยากันทันที เพราะนี่มันเป็นรายชื่อของคนที่ไม่ได้มีความประสงค์หรืออยากแก้รัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ โควตาที่ได้มา 12 ที่นั่งก็มีการคัดไปแค่ 6 อีก 6 โยนไปให้วิปรัฐบาลนำไปพิจารณาจัดสรรกัน ซึ่งหากมองไปยังจำนวนเสียงของคณะกรรมาธิการตามสัดส่วนเพื่อหวังผลถึงเก้าอี้ประธานกรรมาธิการแล้ว จุดนี้ก็จะเป็นการทำให้พรรคสืบทอดอำนาจได้เปรียบในทันทีทันใด

เรียกได้ว่าทำทุกทาง หาทุกช่องที่จะทำให้พรรคพวกของตัวเองกุมความได้เปรียบเหนือคู่แข่งไม่เว้นแม้กระทั่งพวกเดียวกันเอง ความจริงหากกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีปัญหาอันเกิดมาจากความขัดแย้ง ไม่ลงรอยกันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกเช่นกัน ต้องอย่าลืมเป็นอันขาดบาดแผลในใจของพรรคเก่าแก่หลังเลือกตั้ง อันเป็นผลจากการกระทำของพรรคสืบทอดอำนาจนั้น ยังคงรอวันที่จะชำระแค้นเอาคืนกันอยู่ตลอดเวลา

ภาพการลงพื้นที่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันวาน สาระเนื้อหาสิ่งที่พูดไม่ได้มีอะไรใหม่ ขอความเห็นใจ ขอกำลังใจและปลุกประชาชนให้เห็นด้วยสนับสนุนในสิ่งที่รัฐบาลทำ พร้อมขายฝันความเป็นประชารัฐ อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือนำงบประมาณไปเทให้ในพื้นที่ ตราบใดที่ยังทำงานเน้นสร้างภาพให้ตัวเองดูเหมือนใกล้ชิดประชาชน แต่แท้จริงห่างไกลเพราะการแบ่งชั้นวรรณะ ต่อให้เทเม็ดเงินไปมหาศาลเท่าไหร่ก็ยากที่จะซื้อใจประชาชนได้