อย่าติดหรูตู่อยู่นาน

คนกรุงเทพฯ ดีอกดีใจ นานทีหลายปีหนได้เจออากาศหนาว แต่ข่าวเศร้า อีสานมีคนหนาวตาย ท่านผู้นำอุตส่าห์ห่วงใย แนะให้ไปซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาต้ม


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

คนกรุงเทพฯ ดีอกดีใจ นานทีหลายปีหนได้เจออากาศหนาว แต่ข่าวเศร้า อีสานมีคนหนาวตาย ท่านผู้นำอุตส่าห์ห่วงใย แนะให้ไปซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาต้ม

นี่คือหน้าที่นายกรัฐมนตรี ? ไม่น่าใช่ แต่ห่วงไง นึกภาพออกเลย สมัยเป็นผู้พันผู้การ ท่านคงชอบสอนไอ้เณรล้างหน้าแปรงฟัน ล้างมือก่อนกินข้าว ฯลฯ จนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลิกเกณฑ์ทหาร

ฟังแล้วก็เป็นด้านดี อบรมสั่งสอนคนไทยมาห้าหกปี น้ำท่วมให้เลี้ยงปลา เลิกปลูกข้าวปลูกหมามุ่ย ฯลฯ พูดอย่างคือเอาปืนมาจี้ เอาเปรียบกติกา แล้วยังทำตัวเป็นลุงผู้แสนดี

แต่ประชาชนไม่อยากได้ลุงมาสั่งมาสอน ประชาชนไม่ต้องการญาติผู้ใหญ่ (หลายคนบอกไม่ใช่ญาติกู จะวิ่งไล่อยู่นี่) ประชาชนอยากได้ผู้นำที่มีความรู้ความสามารถในการบริหาร แก้เศรษฐกิจปากท้องอย่างถูกทิศทาง ไม่ใช่แจกระยะสั้น แล้วไม่รู้อนาคตเป็นอย่างไร

ประชาชนยังต้องการผู้นำที่เที่ยงตรง เป็นธรรม ไม่ใช่อ้างว่าตัวเองไม่โกง แต่ใช้อำนาจสองมาตรฐาน อุ้มพวกพ้อง เลือกปฏิบัติกับฝ่ายตรงข้าม ทำได้ทุกอย่างเพื่อครองอำนาจยาวไป

ไม่รู้ใครโพสต์ข้อความ “อย่าใช้ชีวิตติดหรู เพราะลุงยังอยู่อีกนาน” เห็นส่งต่อกันครึกครื้นในโลกออนไลน์ ฟังทีแรกก็ขำ ๆ แต่มาหัวร่อก๊าก ในวันที่ลุงสอนสั่ง คนไทยหมดเงินไปเยอะ เรื่องความสวยความงาม แต่งตัว เสริมจมูก แม้ไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็แนะนำให้พอเพียง

ที่จริงเห็นด้วยนะ เพราะส่วนตัวไม่เสียเงินกับเรื่องพวกนี้ ไก่งามเพราะขนแต่คนไม่ใช่ไก่ กระนั้นบางคนต้องการความมั่นใจ ธุรกิจความงามจึงเติบโตมีมูลค่ามหาศาล ทำเงินเข้าประเทศจากการส่งออกหรือต่างชาติบินมาทำ

ลุงออกต่างจังหวัดน่าจะลองฟังวิทยุมั่ง ดีเจทุกวันนี้ถ้าไม่ขายเครื่องสำอางอาหารเสริมคงเจ๊งกันหมด (รวมทั้งวิทยุทหาร)

นี่เรื่องเล็ก ๆ แต่สะท้อนความไม่เข้าใจทิศทางเศรษฐกิจ เดี๋ยวก็เตือนคนไทยให้รู้จักอดออม แต่เดี๋ยวก็บ่นคนมีเงินไม่ยอมใช้จ่าย คนมีสตางค์จะใช้อะไร ก็ซื้อของฟุ่มเฟือยหรือซื้อบริการที่ถูกใจ

เลยกลายเป็นบิดาแห่งการย้อนแย้ง เดี๋ยวเลิกกินหูฉลามเพราะสงสาร เดี๋ยวกลายเป็นเมนูเลิศหรูเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล

ปัญหาของรัฐบาลดูเหมือนรวมศูนย์ที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำนองว่าถ้าปากท้องดีขึ้น จะใช้อำนาจตามอำเภอใจอย่างไร ประชาชนก็ไม่สนใจ จะใช้งูเห่าจะยุบพรรคตัดสิทธิ ทำลายฝ่ายค้าน สองมาตรฐานแค่ไหนก็ได้

แต่ความจริงคือ ไม่ใช่แค่ยิ่งแก้เศรษฐกิจยิ่งแย่ลง อย่างที่โพลชี้ “สอบตก” หากดูภาวะเศรษฐกิจโลก เงื่อนไขปัจจัยต่าง ๆ ก็เชื่อได้ว่าต่อให้ส่งออกท่องเที่ยวจีดีพีดีขึ้น 3.0 3.5 ก็ยังไม่ถึงระดับที่ประชาชนพึงพอใจ คนจะบ่นอยู่ดี

ฉะนั้นที่เชื่อว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจดี จนกลบอำนาจไม่ชอบธรรม จึงเป็นไปได้ยาก เป็นทางตรงข้ามมากกว่า คือยิ่งซ้ำเติม ยิ่งทำให้ประชาชนรู้สึกว่าอยู่นานยิ่งแย่

เศรษฐกิจจะย้อนไปเพิ่มความรู้สึกเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่แค่คนจนคนรวย กลุ่มทุนประชารัฐ แต่รวมความไม่พอใจต่ออำนาจรัฐราชการ การจัดระเบียบ ออกใบอนุญาตต่าง ๆ เพิ่มต้นทุนคนทำมาหากิน ความไม่พอใจการใช้อำนาจของตำรวจ อภิสิทธิ์ทหาร สองมาตรฐานนักการเมืองพิทักษ์ผู้นำ

การเมืองไม่ชอบธรรมคิดจะปั้นเศรษฐกิจกลบ แต่มันส่งผลถึงกันอยู่ดี การเมืองแบบนี้ ภายใต้อำนาจที่คาดเดาไม่ได้ ภายใต้รัฐราชการเป็นใหญ่ มีความเหลื่อมล้ำมากมาย ยิ่งทำให้เศรษฐกิจกลับไปเป็นชนวนการเมือง

 

Back to top button