2562 ปีทองหุ้นไอพีโอ?

2562 ปีทองหุ้นไอพีโอ?


จากการสำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า ปี 2562 มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ SET-mai จำนวนทั้งหมด  34 หลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 23 หลักทรัพย์ โดยหุ้นไอพีโอทั้ง 34 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นหุ้นไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ SET จำนวน 17 ตัว และหุ้นไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 17 ตัว

โดยหลักทรัพย์ทั้งหมดมีมูลค่าระดมทุนรวมอยู่ที่  90,508.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.95% จากปี 2561 อยู่ที่  81,572.53 ล้านบาท ขณะเดียวกันมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Capitalization)  ณ ราคา IPO โดยรวมอยู่ที่ 383,749.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 109.54% จากปี 2561 อยู่ที่  81,572.53 ล้านบาท

แน่นอนมูลค่าหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเฉียด 4 แสนล้านบาท ยิ่งถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าปี 2562 เป็นปีทองหุ้นไอพีโอได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญแรงหนุนครั้งนี้ส่วนใหญ่มาจากเม็ดเงินระดมทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่เข้ามาหลายตัว อาทิ AWC,BAM, ACE ดังตารางข้อมูลประกอบดังนี้

ทั้งนี้หากสังเกตข้อมูลดังกล่าวจะพบว่าหุ้นไอพีโอน้องใหม่เข้าซื้อขายวันแรกทำผลงานได้สดใสมากถึง 18 ตัว โดยหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายวันแรกราคายืนเหนือราคาจองได้อย่างโดดเด่นอันดับ 1 ในตลาดหลักทรัพย์ SET คือ RBF โดยราคาหุ้นเหนือจอง 32.12% จากราคา IPO เสนอขาย 3.30 บาท ส่วนอันดับ 1 ตลาดหลักทรัพย์ mai คือ  GSC ราคาหุ้นเหนือจอง 47.06% จากราคา IPO เสนอขาย 1.70 บาท

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับรับว่าปี 2562 ถือเป็นช่วงที่หุ้นไอพีโอหลายตัวต้องกัดฟันสู้กับภาวะตลาดผันผวนอย่างหนัก เนื่องจากภาวะตลาดเผชิญปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้าจีนและสหรัฐ,การประท้วงในฮ่องกง และแนวโน้มผลประกอบการปี 2562 ไม่สดใส ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญทั้ง 1700 จุด และ 1600 จุด และเป็นเหตุให้หุ้นเข้าใหม่หลายตัวซื้อขายวันแรกราคาหลุดจองอย่างเลี่ยงไม่ได้

โดยหุ้นไอพีโอตลาดหลักทรัพย์ SET และmai เข้าซื้อขายวันแรกราคาหลุดจอง 8 หลักทรัพย์ โดยแบ่งเป็นหุ้นไอพีโอตลาดฯ SET ราคาหลุดจอง 2 ตัว คือ SHR,BKER ส่วนหุ้นไอพีโอตลาดฯ mai  ราคาหลุดจอง 6 ตัว SAAM,ALL, ARIN,BC, TPS,STC และIMH โดยหุ้นที่ซื้อขายวันแรกราคาหลุดจองหนักสุดคือ BC ซื้อขายวันแรกราคาหลุดจองมากถึง 30.07% จากราคา IPO เสนอขาย 2.86 บาท

อย่างไรก็ตามแม้จะมีหุ้นไอพีโอราคาหลุดจองเป็นจำนวนมาก แต่ปี 2562 เป็นปีที่ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกชะลอตัว ดังนั้นการที่มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ที่เข้าซื้อขายวันแรกและหลุดจากราคา IPO เพียง 8 บจ. จากทั้งหมด 34 บจ. เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นฝีมือของตลาดหลักทรัพย์แล้วว่าสามารถทำผลงานได้อย่างสดใส และยังถือว่าเป็นปีทองหุ้นไอพีโออย่างชัดเจน

นอกจากนี้ในปี 2563 ถือเป็นความท้าทายของตลท.อีกครั้งว่าจะสามารถรักษาผลงานได้อีกสมัยหรือไม่ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังต้องเจอกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้านซึ่งถือเป็นจุดท้าทายสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาหหุ้นไทยอีกปีหนึ่ง

Back to top button