ดัชนีวิ่งกรอบจำกัด

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่หรือแทบจะทั้งหมด ปิดในแดนลบ

ทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง รวมถึงในอาเซียน

ยกเว้น “เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต” ตลาดหุ้นจีนที่ดีดสวนขึ้นมาได้

ปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศจัดหาเงินกู้วงเงินรวม 3 แสนล้านหยวน

หรือประมาณ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์

วงเงินนี้รัฐบาลจีนได้ให้กับธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจ (Policy bank)

โดยผ่านทางโครงการเงินกู้แบบ Re-lending

หรือการปล่อยกู้เพื่อให้นำไปปล่อยกู้ต่อ

การจัดหาเงินกู้ดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อควบคุมและลดผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในขณะนี้

ทว่าดูเหมือนในตลาดหุ้นเอเชียจะไม่ได้ตอบรับกับมาตรการของจีน

เพราะมองว่าการระบาดของไวรัสฯ กำลังทวีความรุนแรง

และเกรงว่าน่าจะเป็นปัญหาที่หนักกว่าโรคระบาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

สถานการณ์เช่นนี้

สำหรับตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ก็คงไม่พ้นที่จะร่วงลงตามหุ้นเอเชีย

เว้นแต่วันนี้ (11 ก.พ.) หุ้นเอเชียจะดีดกลับได้บ้าง

ซึ่งก็น่าจะทำให้ตลาดหุ้นของเราปรับลงในกรอบจำกัด

หรือหากจะวิ่งขึ้น ก็น่าจะขึ้นในกรอบจำกัด

นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ดัชนีมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ  1,550 จุด

ส่วนแนวรับยังมองว่า มีโอกาสที่ดัชนีจะกลับไปหลุด  1,500 จุดได้อีก

ตลาดหุ้นไทยเพิ่งจะได้รับปัจจัยบวกจากคณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา 0.25% หรือลงมาเหลือ 1.00% ต่ำสุดในประวัติการณ์

ประเด็นนี้ช่วยชะลอการร่วงลงของตลาดหุ้นได้

เพราะมีหุ้นหลายกลุ่ม หลายตัวได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง

ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ เริ่มทยอยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้ว ทั้งประเภท  MLR และ MRR

มากสุดคือ 0.25%

น่าจะช่วยลดภาระหนี้เงินกู้ของ บจ.ได้หลายแห่ง

และยังพอมีปัจจัยหนุนจากศาลรัฐธรรมนูญให้โหวตวาระ 2-3 ใหม่เกี่ยวกับงบปี 63

ล่าสุด “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ

และน่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้

อีกปัจจัยบวกคือ การจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกในสัปดาห์นี้

ลุ้นกันว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร จะปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีกหรือไม่

ยูจีน ไวน์เบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช บอกว่า

กลุ่มโอเปกอาจตัดสินใจปรับลดการผลิตลงอีกในสัปดาห์นี้ เพื่อช่วยปกป้องราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลงต่อไป

ก่อนหน้านี้ หรือในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โอเปกและพันธมิตรได้ตกลงลดการผลิตน้ำมันลงมา 500,000 บาร์เรลต่อวัน รวมเป็นการปรับลดทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

หากลดลงมาจริง ๆ น่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มน้ำมัน โดยเฉพาะ “พี่ปอ” PTT ให้วิ่งขึ้นได้

ส่วนผลประกอบการ บจ.นั้น

ก็เชื่อว่ามีหุ้นหลาย ๆ ตัวที่นักลงทุน เข้าเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่า งบไตรมาส 4/62 จะออกมาสวยงาม

แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีซักกี่ตัว

เพราะนักวิเคราะห์ต่างคาดว่า ส่วนใหญ่ “กำไรจะอ่อนแอ”

ดูปัจจัยบวก และลบ ต่าง ๆ แล้ว

ดัชนีหุ้นไทย ก็ขึ้นวิ่งได้ในกรอบจำกัด

และน่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกพักใหญ่ ๆ