AOT อนาคตไกล! โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” มองกำไรงวดปี 64 โตก้าวกระโดดรับสัญญาดิวตี้ฟรี

AOT อนาคตไกล! โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” มองกำไรงวดปี 64 โตก้าวกระโดดรับสัญญาดิวตี้ฟรี


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT โดยมีนักวิเคราะห์กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หลังประกาศกำไรสุทธิ ในไตรมาส 1/63 (ต.ค.-ธ.ค.62) 7.4 พันล้านบาทดีกว่าคาด

ด้านนายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรสุทธิของ AOT ในไตรมาส 1/63 (ต.ค.-ธ.ค.62) อยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 43.2% จากไตรมาสก่อน ซึ่งสูงกว่าคาด เพราะมีรายได้อื่นเข้ามา จำนวน 523 ล้านบาท จากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาไม่ต้องจ่ายชดเลยจากข้อพิพาทสัญญาให้เช่าพื้นที่ภายในศูนย์บริหารการขนส่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้มีการกลับรายการจากที่บริษัทตั้งสำรองไว้ ทั้งนี้หากตัดรายการนี้ กำไรจะใกล้เคียงที่คาดไว้

จากสถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มองว่าจะมีผลกระทบ 2 ไตรมาสข้างหน้า (ม.ค.-มิ.ย.63) จะทำให้  AOT มีความเสี่ยงผลประกอบการจะอ่อนแอลง จะไม่ดีเท่าไตรมาส 1/63 ในเบื้องต้น ประเมินว่า จากการระบาดไวรัสโคโรนา ทำให้จำนวนผู้โดยสารในปีนี้ลดลง 10% และจำนวนเที่ยวบินลดลง 5% จะส่งผลกระทบกับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ 4.5%  ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดของ AOT โดยก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งห้ามคนจีนเดินทางออกจากอู่ฮั่นเพื่อยังยั้งการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา

“เป็นผลกระทบช่วงสั้น ที่ไวรัสโคโรนาก็เกิดขึ้นปีนี้ปีเดียว กระทบกำไรสุทธิปีนี้ แต่ยังแนะนำ”ซื้อ” เพราะใน long term เห็นทิศทางการเติบโตที่ค่อนข้างดี โดยในส่วน NON-AERO จากสัญญาดิวตี้ฟรีใหม่ของคิงเพาเวอร์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง (ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่)รวม 4 สนามบิน ที่มีรายได้อย่างน้อย 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้รายได้และกำไรในปี 64 ก้าวกระโดด” นายปริญญ์ กล่าว

ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในงวดปี 63 ที่ 2.85 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8%จากปีก่อน และคาดตั้งแต่งวดปี 64  เป็นต้นไป มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4 หมื่นล้านบาท

ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 83.00 จากเดิม 88.00 บาท เนื่องจากปรับลดกำไรสทธิลง โดยในงวดปี 63 ปรับลงจากเดิม 12% เป็น 2.4 หมื่นล้านบาท จากการปรับลดประมาณการจำนวนผู้โดยสารในงวดปี 63 เติบโตติดลบ 4.5% จากเดิมคาดเติบโต 4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย

ส่วนงวดปี 64 ได้ปรับลดกำไรลง -6% จากการประเมินการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่ระมัดระวังมากขึ้น จากเศรษฐกิจโลกที่เจริญเติบโตลดลง อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิงวดปี 64 จะยังคงเติบโตก้าวกระโดด 47% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการรับรู้รายได้สัญญาใหม่จากคิงเพาเวอร์ และได้ผลบวกจากการเปิดให้บริการอาคารใหม่ Satellite สนามบินสุวรรณภูมิ

Back to top button