“ก.ต่างประเทศ” วางแผนช่วยเหลือชาวไทย 7,300 คนใน “อิหร่าน-อิตาลี” กลับปท.หนี “โควิด-19”!

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือในกรอบคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center – RRC) โดยมีนายธนา เวสโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงฯ เป็นประธาน เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิหร่านและอิตาลีจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด- 19)

โดยกรณีคนไทยในอิหร่าน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ประสานกับกลุ่มคนไทยกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 300 คน ปัจจุบัน ยังไม่มีการปิดเส้นทางคมนาคมเข้า-ออก อิหร่านมายังประเทศไทย คนไทยในอิหร่านยังสามารถเดินทางออกจากอิหร่านได้ตามปกติ ที่ประชุมจึงได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือคนไทยกรณีสถานการณ์เลวร้ายลง

รวมทั้งแจ้งมาตรการของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยที่กำหนดเงื่อนไขที่จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้โดยสารไม่มีความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องด้วย

ส่วนกรณีคนไทยในอิตาลี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม รายงานว่า ชุมชนไทยในอิตาลีมีประมาณ 7,000 คน โดยในปัจจุบัน ทางการอิตาลีได้ประกาศให้อิตาลีเป็นพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ จึงทำให้ประชาชนทุกคน รวมทั้งคนไทย จะสามารถเดินทางระหว่างเมืองหรือเดินทางออกจากอิตาลีไปต่างประเทศได้เฉพาะกลุ่มที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ทางการอิตาลีกำหนด (เหตุผลด้านสุขภาพ การเดินทางกลับภูมิลำเนา การเดินทางกรณีฉุกเฉิน) ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม จะประสานให้คนไทยในอิตาลีรับทราบข้อมูลดังกล่าวต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉินได้ซักซ้อมความเข้าใจและหารือเกี่ยวกับผลในทางปฏิบัติของมาตรการของฝ่ายไทย เกี่ยวกับการเดินทางจากต่างประเทศของคนไทยเข้ามายังประเทศไทยในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคฯ สืบเนื่องจาก

(1) ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ฉบับที่ 5

(2) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563

และ (3) ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)