ส่องผลกระทบ 7 หุ้นโดนลูกหลง “เวียดนาม” สั่งล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ระบาด

ส่องผลกระทบ 7 หุ้นโดนลูกหลง "เวียดนาม" ล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ระบาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ลงนามในกฤษฎีกาวันนี้ เพื่อประกาศว่าไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดทั่วประเทศเวียดนามแล้วในขณะนี้

อีกทั้งทางการเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศเป็นเวลา 15 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ พร้อมกับกำหนดให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเกิน 2 คน โดยล่าสุด เวียดนามยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 200 คน แต่ยังไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการของรัฐบาลเวียดนามต่อกลุ่มบริษัทที่มีธุรกิจอยู่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งประกอบด้วย CPF CBG M BJC MALEE BGRIM GULF JWD ว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีสัดส่วนรายได้ในเวียดนาม 16% ของรายได้รวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์สุกรและกุ้ง จึงอาจถูกกระทบจากความต้องซื้อสินค้า (Demand) ลดลงของลูกค้า Food Service อย่างไรก็ตามคาดว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะน้อยกว่า 5% ของรายได้เวียดนาม โดยรวมยังมองกระทบจำกัด เนื่องจากเป็นอาหารยังเป็นสินค้าจำเป็น และล่าสุดราคาหมูยังยืนเหนือ 7 หมื่นดองต่อกิโลกรัม

ส่วน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG มีสัดส่วนรายได้ในเวียดนาม 2% ของรายได้รวม ยังคงคาดผลกระทบจำกัด แต่อาจทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตในตลาดเวียดนามราว 5% เป็นไปได้ยากขึ้น

ด้าน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ M มีสาขาในเวียดนาม 9 แห่ง และจากการสำรวจล่าสุดพบว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปิดสาขาไปแล้ว 7 แห่ง แต่หลังรัฐบาลประกาศ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะปิดสาขาทั้งหมด คาดยังกระทบจำกัด เนื่องจากสาขาบางส่วนเป็นสาขา Franchise

ขณะที่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC มีรายได้ในเวียดนามราว 6% ของรายได้รวม และคาดว่าอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์

ส่วน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM  มีการขายไฟฟ้าลูกค้าอุตสาหกรรมในเวียดนาม สัดส่วนรายได้ราว 3% แต่มาร์จิ้นบาง และจากการขายแบบ trading ส่วนที่ขายให้การไฟฟ้าเวียดนามแบบสัญญาระยะยาว (PPA) สัดส่วนราว 4% จึงมองว่ามีความเสี่ยงไม่มาก

เช่นเดียวกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มีสัดส่วนรายได้ขายไฟให้การไฟฟ้าเวียดนามแบบ PPA ราว 1%

รวมถึง บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ถือหุ้นราว 24% ใน Transimex ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์รายใหญ่ในเวียดนาม โดย JWD มีสัดส่วนกำไรที่จะได้รับคิดเป็น 14% ของกำไรรวม

Back to top button