BBL ปิดดีลซื้อ “เพอร์มาตา” ควัก 7.37 หมื่นลบ. เข้าถือ 89%

BBL ปิดดีลซื้อ "เพอร์มาตา" ควัก 7.37 หมื่นลบ. เข้าถือ 89%


นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้โอนชำระค่าหลักทรัพย์ธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค (เพอร์มาตา) สัดส่วน 89.12% ตามมูลค่าประเมินที่ตกลงร่วมกันที่ 1.63 เท่าของมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นเงิน 73,722 ล้านบาท (หรือประมาณ 33,662,797 ล้านรูเปียห์ หรือ 2,282 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับ พีที แอสทรา อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เสร็จสมบูรณ์ในวันนี้(20พ.ค.63)

“ธนาคารขอขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทย หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย Otoritas Jasa Keuangan และหน่วยงานของทางการที่เกี่ยวข้องที่ได้อนุมัติและสนับสนุนการเข้าซื้อกิจการในครั้งประวัติศาสตร์นี้”นายชาติศิริ กล่าว

นายชาติศิริ กล่าวอีกว่า การเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตาที่มีสินทรัพย์ 366,595 ล้านบาท (หรือประมาณ 167,394,076 ล้านรูเปียห์ หรือ 11,349 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 12 ของอินโดนีเซียเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวม พร้อมด้วยฐานลูกค้าจำนวน 3.75 ล้านราย และสาขา 312 แห่งทั่วอินโดนีเซีย นับเป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารกรุงเทพที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะส่งผลให้สัดส่วนของสินเชื่อในตลาดต่างประเทศต่อสินเชื่อรวมของธนาคารกรุงเทพเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 25% เป็นไปตามกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างรากฐานของธนาคารกรุงเทพเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

สำหรับการดำเนินการในลำดับถัดไปธนาคารกรุงเทพจะยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan) เพื่อจัดทำคำขอเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของธนาคารเพอร์มาตาอีก 10.88% จากผู้ถือหุ้นรายย่อย หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการรวมสาขาธนาคารกรุงเทพในอินโดนีเซียเข้ากับธนาคารเพอร์มาตา ซึ่งจะช่วยเสริมให้ธนาคารกรุงเทพมีรากฐานที่มั่นคงยิ่งขึ้นในสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยจะร่วมกับธนาคารเพอร์มาตาในการขยายธุรกิจต่อยอดจากจุดแข็งเดิมในตลาดลูกค้าบุคคล ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี  และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่

ขณะเดียวกันลูกค้าของธนาคารกรุงเทพจะมีโอกาสมากขึ้น สำหรับการขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งหวังให้ความร่วมมือในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างธนาคารเพอร์มาตากับกลุ่มแอสทราให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ในประเทศอินโดนีเซีย โดยเปิดทำการสาขาจาการ์ต้าเป็นแห่งแรกเมื่อปี 2511 โดยมีความเชื่อมั่นในความมั่นคงทางเศรษฐกิจและโอกาสในการเติบโตของอินโดนีเซีย แม้ในช่วงเวลาอันยากลำบากที่ทุกประเทศกำลังต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ธนาคารกรุงเทพพร้อมยืนหยัดเคียงข้างธนาคารเพอร์มาตา และร่วมมือกันสนับสนุนบุคลากร ลูกค้าและสังคม ให้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ไปด้วยกัน

การเข้าถือหุ้นของธนาคารกรุงเทพในธนาคารเพอร์มาตาครั้งนี้ จะทำให้ทั้งสองสามารถนำความเชี่ยวชาญและจุดแข็งของกันและกันมาใช้สนับสนุนการขยายธุรกิจในตลาดลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกรุงเทพมีเครือข่ายที่เข้มแข็งและครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งความสัมพันธ์กับบริษัทชั้นนำทั่วเอเชีย รวมถึงความเชี่ยวชาญในบริการทางการเงินสำหรับการค้าระหว่างประเทศและประสบการณ์เชิงลึกในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยธนาคารเพอร์มาตาสามารถสนับสนุนลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีคุณภาพสูง และส่งเสริมการเข้าถึงตลาดนอกประเทศอินโดนีเซียผ่านเครือข่ายของธนาคารกรุงเทพทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ

นอกจากนี้ธนาคารยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและยานยนต์ให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ อีกทั้งยังพร้อมส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินและเผยแพร่ความรู้ทางการเงินในประเทศอินโดนีเซีย

นายพริโจโน ซูกิอาร์โต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีที แอสทรา อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค กล่าวว่า กลุ่มบริษัทแอสทราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของธุรกรรมธนาคารเพอร์มาตาในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทแอสทรายังคงเชื่อมั่นในภาคธุรกิจบริการทางการเงินของอินโดนีเซีย โดยยังคงให้ความสำคัญกับการขยายบริการทางการเงินไปยังลูกค้าบุคคล และขออวยพรให้ธนาคารกรุงเทพและธนาคารเพอร์มาตาประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทแอสทราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พัฒนาความสัมพันธ์กับธนาคารเพอร์มาตาให้แน่นแฟ้นต่อไป

นายบิล วินเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทีมงานธนาคารเพอร์มาตามีผลงานที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่าธนาคารเพอร์มาตายังคงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในระยะยาว แต่ยุทธศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในขณะนี้ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจผ่านสาขาของธนาคารเองเป็นหลัก การเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นรายใหม่อย่างธนาคารกรุงเทพที่ได้รับความเชื่อถืออย่างกว้างขวางและมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารเพอร์มาตามีการพัฒนาทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้นต่อไป

Back to top button