BPP หงสาพากำไรหด

ดูไม่จืดทีเดียว..! เมื่อบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดงบไตรมาส 2/2563 ออกมาทำกำไรสุทธิหล่นหายไปถึง 40% อยู่ที่ 680 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,140 ล้านบาท


สำนักข่าวรัชดา

ดูไม่จืดทีเดียว..! เมื่อบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดงบไตรมาส 2/2563 ออกมาทำกำไรสุทธิหล่นหายไปถึง 40% อยู่ที่ 680 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,140 ล้านบาท

ทำให้มีคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกหัวแก้วหัวแหวนของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กันละเนี่ย…เหตุใดกำไรวูบหนักขนาดนี้..?

พอไปไล่เรียงดู พบปมเหตุมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าและบริษัทร่วม ลดลง 563 ล้านบาท หรือลดลง 41% อยู่ที่ 806 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ 1,369 ล้านบาท

ตัวการหลักเกิดจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงของโรงไฟฟ้าหงสาและเหมืองภูไฟ จากเดิมอยู่ที่ 1,026 ล้านบาท ในไตรมาสนี้เหลือแค่ 407 ล้านบาท ลดลง 619 ล้านบาท หรือลดลง 60% เนื่องจากหยุดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงไฟฟ้าหน่วยผลิตที่ 3 ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.ถึงส.ค. 2563 ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนแผนการซ่อมบำรุง เพราะพบสัญญาณความผิดปกติของบางอุปกรณ์ในเครื่องจักร จึงต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบและปรับปรุงอุปกรณ์ดังกล่าว

ถ้าดูไทม์ไลน์การปิดซ่อมโรงไฟฟ้าหน่วยผลิตที่ 3 ที่ลากยาวไปถึงเดือน ส.ค. ก็เป็นไปได้ว่าผลงานไตรมาส 3/2563 ก็อาจซ้ำรอยไตรมาสนี้

BPP จึงตกอยู่ในสภาพโรงไฟฟ้าหงสาฉุดกำไรหดไปโดยปริยาย…

รวมทั้งต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ลงทุนผ่านบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด อีก 90 ล้านบาท

ไม่หมดเท่านี้…BPP ยังประสบปัญหารายได้จากการขายไฟฟ้า ไอน้ำ และอื่น ๆ ของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่ง ลดลง 222 ล้านบาท หรือลดลง 17% อยู่ที่ 1,061 ล้านบาท

ทำให้แม้ต้นทุนการขายลดลง 14% อยู่ที่ 933 ล้านบาท แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะไปชดเชยกับรายได้ที่หายไป ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 128 ล้านบาท ลดลง 37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 204 ล้านบาท

นอกเหนือจากนี้ ยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 142 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแปลงค่าเงินให้กู้ยืมเป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ณ วันสิ้นงวด

ส่งผลให้งวดครึ่งปี BPP ทำผลงานได้ดีสุดกับตัวเลขกำไรสุทธิ 1,655 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,394 ล้านบาท

ทำเอานักลงทุนออกอาการเซ็งไปตาม ๆ กัน…

เมื่อ BPP กำไรลดฮวบฮาบซะขนาดนี้…ก็ไม่แปลกที่ตัวแม่ BANPU ซึ่งเดิมต้องพึ่งพิงลูก BPP เป็นหลัก จะโดนโดมิโนไปด้วย โดยไตรมาส 2/2563 พลิกมาขาดทุนสูงถึง 2,514 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท

ท่ามกลางธุรกิจถ่านหินที่ซบเซาหนัก แทนที่ BPP จะมาช่วยปั๊มกำไรให้กับ BANPU ได้เป็นกอบเป็นกำ เพื่อชดเชยถ่านหินที่ใกล้มอด กลับทำให้ยิ่งแย่กว่าเดิม เป็นตัวกดดันซะงั้น…

ซึ่งถ้าปล่อยให้ BPP เกิดอุบัติเหตุกำไรซ้ำซากอย่างนี้คงไม่ดีแน่ จะกอดคอกันแย่ทั้งแม่และลูกน่ะสิ…

ใครที่ไม่อยากเสี่ยงช่วงนี้ ก็ต้องร้องเพลง “ถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า” ไปพลาง ๆ ก่อน…น่าจะปลอดภัยสุด

…อิ อิ อิ…

Back to top button