TSR วิ่งฉิว 7% นิวไฮรอบ 3 ปี หลัง “Amazon” สั่งซื้อเครื่องทำน้ำแข็งมูลค่า 22 ลบ.

TSR วิ่งฉิว 7% นิวไฮรอบ 3 ปี หลัง "Amazon" สั่งซื้อเครื่องทำน้ำแข็งมูลค่า 22 ลบ. โดย ณ เวลา 15.22 น. ราคาอยู่ที่ 4.02 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 6.91% สูงสุดที่ 4.22 บาท ต่ำสุดที่ 3.82 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42.98 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ล่าสุด ณ เวลา 15.22 น. อยู่ที่ 4.02 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 6.91% สูงสุดที่ 4.22 บาท ต่ำสุดที่ 3.82 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 42.98 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี 11 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.06 บาท เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2560

นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSR เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เลือกใช้เครื่องทำน้ำแข็ง Alpine Water ในร้านกาแฟ Amazon โดยเฟสแรกมูลค่าใบสั่งซื้อรวมกว่า 22 ล้านบาท

“ต้องขอขอบคุณทีมผู้บริหาร PTTOR ที่เลือกใช้เครื่องทำน้ำแข็ง Alpine ของ TSR ซึ่งเรามีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ในการผลิตน้ำแข็งใส ที่มีความสะอาดปลอดภัยและถูกหลักอนามัย มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งคุณภาพการผลิต อะไหล่และวัสดุนำเข้าจากยุโรป ตัวคอมเพรสเซอร์มีคุณภาพทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี”

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านกาแฟ หลายราย เพื่อเข้าไปขยายตลาดเครื่องทำน้ำแข็ง อีกทั้งเตรียมเข้าร่วมงาน Thailand Coffee Fest 2020 มหกรรมกาแฟยิ่งใหญ่ที่สุดใน SOUTH EAST ASIA ระหว่างวันที่ 1 – 4 ตุลาคม 2563 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและ การประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ทั้งนี้ มั่นใจว่าการแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็งของ TSR จะช่วยผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่แนวโน้มในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งจากยอดขายเครื่องกรองน้ำ และจากธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง โดยในส่วนของชุดเครื่องทำน้ำแข็ง จำหน่ายทั้งเงินสด บัตรเครดิต เงินผ่อน และให้เช่า มีราคาตั้งแต่ 5 หมื่นบาท ถึง 3 แสนบาท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของลูกค้า ซึ่งเรามีจุดแข็งในเรื่องของการให้บริการหลังการขายที่เป็นระบบครบวงจร ต่างจากคู่แข่งในตลาด นายเอกรัตน์กล่าวในที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสูงถึง 46.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.90 ล้านบาท จากยอดขายเครื่องกรองน้ำที่เพิ่มขึ้น และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรต่อหุ้นของกลุ่มบริษัทในไตรมาสนี้เท่ากับ 0.086 บาท เพิ่มขึ้น 132.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.037 บาท และจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดจากงวดผลการดำเนินงาน วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2563 ในอัตรา 0.085 บาท/หุ้น

Back to top button