รีบาลานซ์

*วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตกระแดะใช้ภาษาอังกฤษจั่วหัว เพื่อให้แฟนคลับได้เข้าใจมูฟเมนต์ตลาดหุ้นไทยลึกซึ้งกว่าเดิม หลังดัชนีกวัดแกว่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมือใหม่หัดเคาะเริ่มระแวงการขึ้นเที่ยวนี้จะนานแค่ไหน ? ล้วนเป็นมุมมองที่ทุกคนมีสิทธิ์จะคิดได้ แต่การคิดดังกล่าวอาจบั่นทอนกำลังใจโดยใช่เหตุ จึงอยากให้นักเล่นทำตัวให้ยืดหยุ่นมากกว่าเดิม เพื่อเปิดโอกาสในการเล่นรอบไงละคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขออนุญาตกระแดะใช้ภาษาอังกฤษจั่วหัว เพื่อให้แฟนคลับได้เข้าใจมูฟเมนต์ตลาดหุ้นไทยลึกซึ้งกว่าเดิม หลังดัชนีกวัดแกว่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมือใหม่หัดเคาะเริ่มระแวงการขึ้นเที่ยวนี้จะนานแค่ไหน ? ล้วนเป็นมุมมองที่ทุกคนมีสิทธิ์จะคิดได้ แต่การคิดดังกล่าวอาจบั่นทอนกำลังใจโดยใช่เหตุ จึงอยากให้นักเล่นทำตัวให้ยืดหยุ่นมากกว่าเดิม เพื่อเปิดโอกาสในการเล่นรอบไงละคะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกเรื่องรีบาลานซ์ขึ้นมาพูดทันที เพราะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้นักลงทุนเข้าใจการขายหุ้นของ “ฝรั่ง” กับ “กองทุน” ได้ดีขึ้น รวมทั้งรับทราบถึงเหตุผลของการกระทำในครั้งนี้อีกด้วย เดี๊ยนถึงมองการขายหุ้นหนัก ๆ เป็นเพียงยุทธการปรับพอร์ตเพื่อรองรับการซื้อหุ้นล็อตใหม่ในอนาคต จึงไม่มีอะไรซีเรียสจนทำให้คิ้วขมวดติดกันพะยะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 1,420.87 จุด บวกไป 12.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.84 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่สุดแสนจะแฮปปี้ เพราะทำให้เห็นภาพนักลงทุนสถาบันทำการรีบาลานซ์เมื่อวันก่อนได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเปิดช่องให้เข้ามาเล่นเก็งกำไรอย่างคึกคัก เดี๊ยนถึงเชื่อเหลือเกินว่า ตอนนี้หุ้นขนาดใหญ่กำลังพยายามยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมนะจะบอกให้

*เรื่องนี้ดูได้จากการขยับตัวของแบงก์สีเขียว KBANK ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 110-115 บาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า น่าจะมีคนทยอยเก็บหุ้นเมื่อย่อตัวลงมา และมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะขึ้นไปสร้างฐานใหม่ จึงมองราคาปิดที่ 112.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.92 พันล้านบาท  คือจังหวะของการไหลตามน้ำแบบขำ ๆ นะตัวเอง

*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 178 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.21 พันล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นสำหรับ “โมนิก้า” แม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ที่หุ้นทำท่าจะไปยาว ๆ แต่สุดท้ายก็ล่มปากอ่าวเป็นประจำ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 170-182 บาท มีนัยสำคัญสำหรับการเล่นสั้นขนาดไหน..อิอิอิ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลียวหลังมองหุ้น IRPC เพื่อชี้ให้เห็นการเด้งแรงทั้งที่สามสี่วันก่อนเพิ่งโดนรินหุ้น น่าจะเป็นการทดสอบแรงขายเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่ครั้งนี้มีเรื่องของการเทิร์นอะราวด์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงกลายเป็นแรงหนุนที่ทำให้หุ้นขึ้นมาปิด 2.90 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาทแบบชิล ๆ พ่วงด้วยความหวังที่จะเห็นหุ้นขึ้นมายืนเหนือ 3 บาทนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่กำลังทดสอบแรงขายครั้งใหญ่ และกำลังคลำทางขึ้นรอบใหม่อย่าง TRUE กลายเป็นช็อตที่เดี๊ยนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะการพุ่งพรวดขึ้นไปถึงระดับ 3.58 บาท แต่สุดท้ายโดนกดลงมาปิดที่บริเวณ 3.42 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 919 ล้านบาท เหมือนเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า วันนี้อาจยังไม่พร้อม แต่ในวันหน้าก็พร้อมจัดเต็มเจ้าค่ะ

*ในเมื่อเม้าท์เรื่องลุยสุดซอยขึ้นมาทั้งที เดี๊ยนอยากให้ดูหุ้นกระดาษลัง SCGP ไว้เป็นตัวอย่าง เพราะวันแรก ๆ ที่เข้าซื้อขายโดนถล่มยับ แต่วันนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 43.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปถึง 50 บาท เพราะธุรกิจกำลังโตสุด ๆ จึงอยากให้แฟนคลับไปดูรายละเอียดตรงนี้มากเป็นพิเศษจ้า !

*ส่วนคนที่ชอบหุ้นซิ่ง สตอรี่สะท้านทรวง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมาดู SSP ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการเคาะสั้น ๆ เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดบริเวณ 11 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท ท่ามกลาง P/E 13 เท่า ยังเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกบานตะไท บวกกับแนวโน้มกำไรปี 63 ปี 64 และปี 65 โตทุกปี เลยไม่มีอะไรต้องวอร์รี่ทั้งนั้นนะคะ

Back to top button