สแกน 26 หุ้น IPO ปี 63 ฝ่าวิกฤตโควิด เทรดวันแรกสุดปัง เหนือจอง 18 ตัว!

สแกน 26 หุ้น IPO ปี 63 ฝ่าวิกฤตโควิด เทรดวันแรกสุดปัง เหนือจอง 18 ตัว!


ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา มีบริษัทหลายแห่งสนใจเพิ่มช่องทางระดมทุนให้กับบริษัทด้วยการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือที่เรียกกันว่า Initial Public Offering หรือ IPO ซึ่งในปี 2563 นี้ มีจำนวนหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวนทั้งสิ้น 26 หลักทรัพย์ แบ่งเป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาด SET จำนวน 14 บริษัท และตลาด mai จำนวน 12 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 131,049.88 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ดังนี้

โดยจากภาพประกอบ จะเห็นได้ว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าระดมทุนสูงสุดในตลาด SET ได้แก่หุ้นบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ด้วยมูลค่า 78,124.20 ล้านบาท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าระดมทุนสูงสุดในตลาด mai ได้แก่หุ้น บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC ด้วยมูลค่า 1,120.00 ล้านบาท

นอกจากนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของหุ้น IPO ทั้ง 26 ตัว ตั้งแต่เข้าซื้อขายวันแรก พบว่า มีบจ.ทั้งหมด 18 บจ. ที่เข้าซื้อขายวันแรกสามารถปรับตัวได้สูงกว่าราคา IPO ประกอบด้วย SAK, MICRO, KEX, STGT, NCAP, JR, NRF, SCM, SA, IIG, SICT, IND, KK, SK, YGG, ETC, LEO และ DHOUSE

ขณะที่อีก 7 บจ. ราคาซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคา IPO ประกอบด้วย CRC, SO, RT, WGE, PRAPAT SFT และ SABUY

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ในปี 2563 ถึงแม้จะเป็นปีที่มีวิกฤตการณ์โควิด-19 ก็ยังเป็นปีที่หุ้น IPO ยังได้รับการตอบรับอย่างคึกคักในวันแรกที่เข้าทำการซื้อขาย

โดยพบว่า หุ้นบริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK มีความเคลื่อนไหวของราคาเทรดวันแรกโดดเด่นที่สุด ขณะที่หุ้นบริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE มีความเคลื่อนไหวของราคาเทรดวันแรกแย่ที่สุดใน SET

ส่วนตลาด mai พบว่า หุ้นบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG และหุ้นบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT เปิดเทรดได้โดดเด่นสุดที่ 200% ขณะที่หุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY มีความเคลื่อนไหวของราคาเทรดวันแรกแย่ที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจข้อมูลทั้งปีล่าสุด (30 ธ.ค.63) พบว่า หุ้นไอพีโอ ที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดของปีนี้ในตลาด SET ได้แก่ NCAP ที่ปิดล่าสุดที่ 5.60 เพิ่มขึ้น 155% จาก IPO ที่ 2.20 บาท ขณะที่หลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงมากสุดของปีได้แก่ WGE ที่ปรับตัวลดลงมาที่ 1.47 บาท จาก IPO ที่ 2.30 บาท คิดเป็นการปรับตัวลดลง 36%

ส่วนตลาด mai พบว่าหลักทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดของปีนี้ ได้แก่ IIG และ SICT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 200% ขณะที่หลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงมากสุดของปี ได้แก่ SABUY ที่ปรับตัวลดลงมาที่ 1.87 บาท จาก IPO ที่ 2.50 บาท หรือคิดเปนการปรับตัวลดลง 25%

โดยก่อนหน้านี้ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า บริษัทเข้าเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เข้าจดทะเบียนปีนี้มีมูลค่าหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคา IPO ทะลุเป้าหมายแล้ว ซึ่งปกติจะเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งในปีนี้มีมูลค่ารวมเกินเป้าหมายถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย

ด้าน นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า หุ้น IPO เข้าจดทะเบียนปีนี้ถือว่าเกินเป้าหมายแล้ว โดยเฉพาะเป้าหมายการได้เพิ่มมาร์เก็ตแคปให้กับตลาดหุ้นไทย ส่วนการเพิ่มมูลค่าเทียบกับสัดส่วนการเติบโตของประเทศ จะคล้ายกับปีก่อนแม้ประเทศไม่ได้เติบโตแต่ธุรกิจ IPO ค่อนข้างมากเพราะต้องการเม็ดเงินระดมทุน

โดยส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับขึ้นได้ดีจากราคา IPO โดยหุ้นของบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG และ บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT วันแรกที่เข้าเทรดราคาปรับขึ้นมากที่สุดประมาณ 200% ส่วนหุ้นของ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ปรับตัวลงมากที่สุดประมาณ 25% ขณะที่มีเพียง 7 บริษัทเท่านั้นที่ราคาปิดเทรดวันแรกต่ำกว่าราคาไอพีโอ

Back to top button