CPF เดินหน้าส่ง “อาหาร-ร่วมต้านโควิด” ต่อเนื่องถึงมือแพทย์-แรงงานต่างชาติ ในสมุทรสาคร 

CPF เดินหน้าส่ง “อาหาร-ร่วมต้านโควิด” ต่อเนื่องถึงมือแพทย์-แรงงานต่างชาติ ในสมุทรสาคร 


นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ร่วมกับ ซีพี เฟรชมาร์ท ได้ทยอยจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัย COVID-19” ให้ถึงมือหมอ-พยาบาล และ ผู้ป่วยโควิด ของโรงพยาบาลสมุทรสาคร ให้ครบทั้งหมด 55,000 แพ็ค เพื่อเป็นกำลังใจและช่วยอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ได้บริโภคอาหารปลอดภัย มีโภชนาการ สามารถทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคได้เร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟ ยังร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN จัดการลำเลียงผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน จำนวน 30,800 แพ็ค และ ไข่ไก่สดจำนวน 10,000 ฟอง ลงพื้นที่กักกันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในบริเวณตลาดกลางกุ้ง มหาชัย ไปแจกจ่ายให้ถึงมือพี่น้องแรงงานต่างชาติและครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ควบคุมโรค เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่ครอบครัวแรงงานต่างชาติที่ได้รับผลกระทบไม่มีงาน และขาดรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ระหว่างที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสมุทรสาคร

“ซีพีเอฟร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการขนส่งอาหารปลอดภัยให้ถึงมือหมอ-พยาบาล ผู้ป่วย และพี่น้องแรงงานต่างชาติที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาครได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจกับทุกคนรวมถึงพี่น้องแรงงานต่างชาติจะไม่ขาดแคลนอาหารปลอดภัยในทุกช่วงเวลาแม้ว่าในภาวะวิกฤติ” นายประสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ให้ความใส่ใจกับกระบวนการผลิตและการขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารที่จัดส่งถึงมือแพทย์ พยาบาล และแรงงานต่างชาติ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยของอาหารและป้องกันการปนเปื้อนตลอดกระบวนการตั้งแต่โรงงานจนถึงมือผู้รับ เพื่อให้ทุกคนได้บริโภคอาหารที่มีโภชนาการ ปลอดภัยจากโควิด-19ริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ส่วนมาตรการควบคุมในขั้นที่ 2 เป็นข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 1,2 และ 3

“ข้อสรุปของทั้งสองที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันแล้ว นำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค.พิจารณา ถ้าท่านเห็นชอบก็ลงนามประกาศ แต่อาจจะต้องให้มีช่วงเวลา เราเชื่อว่าร้านอาหารต่าง ๆ ที่บอกว่าต้อง take away เช้านี้เลขาสมช.ก็เป็นห่วงกังวล ตอนนี้ก็สั่งให้ผมมาบอกข่าวตรงนี้ก่อน ยังไม่ได้เกิดขึ้นวันนี้ ทุกอย่างจะมีการพูดและมีช่วงเวลาเตรียมตัว วันที่ 4 มกราคมเปิดทำการขึ้นมาเราจะเริ่มใช้ตรงนี้ มีช่วงเวลาให้มีการเตรียมตัว ไม่ต้องไปถึงขนาดกักตุนอะไร มาตรการเราเข้มขึ้นไปกว่าสถานการณ์ของโควิด แต่เราทำขึ้นมาเพื่อคุมคนที่ไม่ร่วมมือกับเรามากที่สุด ฉบับที่ 5 และ 6 ที่เคยนำมาใช้จะมาถูกใช้เป็นฉบับที่ 16 ต่อไป ถ้านายกฯเห็นชอบก็จะมีมาตรการข้อกำหนดฉบับที่ 16 ออกมา…28 วันเราหวังผลของการลดโรคตรงนี้ลงไปได้

แต่ถ้าตัวเลขยังไม่ได้ลดลง และมีข้อแม้ที่แปรเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการไม่ร่วมมือ ติดเชื้อสูงขึ้น หรือทรัพยากรไม่พอก็แล้วแต่ที่จะเกิดขึ้นมา ขั้นที่ 2 คือ จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการมากขึ้น ทั้งการจำกัดการเปิดบริการบางประเภทด้วย อันนี้จะกระทบ ตอนนี้แค่สถานบริการ สถานบันเทิงที่ออกไป แต่ต่อไปก็จะเหมือนในช่วงที่ล็อกดาวน์ แต่เราจะไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์…ถ้าเราช่วยกัน ก็ยังมีอิสระที่จะทำกิจกรรม กิจการต่าง ๆ ได้ทั้งหมด แต่ต่อไปถ้าไม่ได้เราก็จะตั้งด่านเต็มเหมือนกับภาพเดิม เพียงแต่ประกาศเคอร์ฟิว ไม่ประกาศเคอร์ฟิวเท่านั้น แต่คิดว่าคงไม่ประกาศเคอร์ฟิวในช่วงเวลาข้างหน้าเพื่อทุกอย่างจะได้ดำเนินไป การจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน ตรงนี้คุยกันมาก ถ้ากลับไปใช้ประกาศฉบับที่ 1,2 ,3  ต้องมีตรงนี้เกิดขึ้น ต่อไปตรงนี้เป็นพื้นที่ของศบค.จังหวัดเป็นคนกำหนด ถ้าคนที่จังหวัดติดเชื้อสูงมาก ๆ ก็อาจจะล็อกดาวน์เฉพาะบางจังหวัดเป็นไปได้ เราต้องมีความยืดหยุ่นในแต่ละพื้นที่”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

Back to top button