ขึ้น 2 พัก 1

*หากดูจากไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ต้องบอกให้แฟนคลับรู้ว่า รูปแบบการเคลื่อนตัวในช่วงสัปดาห์กว่าเป็นลักษณะ “ขึ้น 2 ลง 1” ซึ่งเป็นรูปแบบที่เห็นมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจหากวันนี้ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปบ้าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้เป็นเรื่องของเงินทุนไหลเข้า หรือที่เรา ๆ ท่าน ๆ เรียกกันจนติดปากว่า January Effect ไงล่ะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูจากไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ต้องบอกให้แฟนคลับรู้ว่า รูปแบบการเคลื่อนตัวในช่วงสัปดาห์กว่าเป็นลักษณะ “ขึ้น 2 ลง 1 ซึ่งเป็นรูปแบบที่เห็นมาแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจหากวันนี้ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปบ้าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้เป็นเรื่องของเงินทุนไหลเข้า หรือที่เรา ๆ ท่าน ๆ เรียกกันจนติดปากว่า January Effect ไงล่ะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองการขึ้นของดัชนีมาปิดที่ 1,547.31 จุด บวกไป 7.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาท ไม่ใช่เรื่องที่ต้องดีใจจนเนื้อเต้น เพราะการไหลของเม็ดเงินดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงต้องดูกันยาว ๆ ว่า เดือนหน้าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่มอีกไหม ? และดัชนีจะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,550 จุดได้นานเพียงใด ? ล้วนเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องเริ่มคิดวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะจ๊ะ

*สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนไม่ฮึกเหิมเหมือนก่อนหน้านี้ และรู้สึกแอบเสียวเล็ก ๆ ตลอดเวลา ล้วนมาจากสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงสองสัปดาห์แรกของปี 64 ไม่ปังปุริเย่ ! จึงพยายามนั่งเรียงจิ๊กซอว์สำคัญที่มีผลต่อการลงทุนต่อจากนี้ว่ามีอะไรบ้าง ? และเสียงสะท้อนที่ได้รับจากคนรอบข้างก็เป็นเพียงคำบอกเล่าที่ว่า ยังมีหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าราคาเหมาะสม ซึ่งเป็นโอกาสของการเล่นสั้น ๆ นะจะบอกให้

*โดยเฉพาะในรายของพี่ PTTEP หากไม่คิดอะไรมากมายจนลงลึกถึงแก่นของธุรกิจ บรรดาแมงลือก็เม้าท์กันให้แซ่ดว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 112.50 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.27 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไท ! เพราะมองแค่เรื่องบุ๊กแวลูที่ระดับ 93 บาทเพียงมุมเดียว ต่อจากนั้นนำมาเทียบกับ P/BV 1.50 เท่า ราคาหุ้นก็ควรไปยืนที่ฐานเก่าบริเวณ 130 บาทแบบสบายเกือกนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของแบงก์ตราใบโพธิ์ SCB หากมองแบบเดียวกับตรรกะข้างต้น ก็พูดได้ทันทีว่า จังหวะนี้น่าโหนกระแสสุด ๆ เพราะบุ๊กแวลูของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ระดับ 120 บาท เมื่อนำมาเชื่อมโยงกับการยืนปิดที่ระดับ 93 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 1.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.97 พันล้านบาท เดี๊ยนย่อมโอนอ่อนตามไปด้วยแบบไม่มีเงื่อนไข เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า การมาของโควิดระลอกใหม่ แบงก์ม่วงสามารถรับมือได้เจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ “ลุ้นแล้ว ลุ้นอีก” สุดท้ายยังไม่ผ่านแนวต้าน 4 บาทขึ้นไปได้เสียที “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่หุ้น IRPC เพื่อชี้ให้เห็นวงรอบการเล่นสั้น ๆ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กลายเป็นจุดที่ทำให้คนอ่านเกมออกทำกำไรได้หลายรอบ เดี๊ยนเลยอยากให้แฟนคลับประเมินราคาปิดที่ 3.86 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาท ยังน่าเล่นอะป่าว !

*อาการดังกล่าวคล้ายกันกับการแกว่งตัวไปมาของหุ้น SGP อย่างไรอย่างนั้นเลย ! แต่ต่างกันตรงที่วานนี้หุ้นพุ่งทะลุแนวต้าน 11 บาทเสียที ! ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 11.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ได้ลุ้นยาว ๆ อย่างแน่นอน เพราะเที่ยวนี้ราคาน้ำมัน กับราคาแก๊สอยู่ในช่วงพุ่งขึ้นไม่หยุด ซึ่งจะทำให้ผลงานในไตรมาส 1 ออกมาแจ่มแมวนะตัวเอง !

*ส่วนรายที่มีอาการหนักจริง ๆ และทำท่าจะไม่รอดสันดอนอย่าง AAV ก็กลายเป็นช็อตที่ทำให้ผู้เล่นต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะการวิ่งขึ้นของหุ้นต่อจากนี้จะมีเพียงเรื่องเดียวคือ ดันหุ้นเพื่อล่อให้แมงเม่าเพิ่มทุน “โมนิก้า” ถึงอยากให้คนที่คิดจะเล่นไตร่ตรองดูให้ดีว่า คุ้มไหม ? เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า ธุรกิจสายการบินจะย่ำแย่ไปอีกปีครึ่ง และการยืนปิดที่ระดับ 2.36 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาทคงไม่ใช่จุดต่ำสุดนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ ITD พาคนเจ๊งยับกับสตอรี่ทวายมากมายแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตอยู่แล้ว และการที่หุ้นทรุดตัวลงมาปิดบริเวณ 1.09 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาทก็เป็นเรื่องที่สมควรเช่นกัน ! เพราะผลงานในช่วง 1-2 ปีไม่เอาอ่าวเลย..แถมมีตัวแดงให้เห็นเป็นระยะแบบนี้ ยังจะกล้าเผยอหน้าให้ชาวหุ้นได้เห็นอีกเหรอ..อิอิอิ

Back to top button