TVO มั่นใจนำเข้า “ถั่วเหลือง” ไม่สะดุด แม้เจอ “โควิด” ระลอกใหม่

TVO มั่นใจนำเข้า “ถั่วเหลือง” ไม่สะดุด แม้เจอ “โควิด” ระลอกใหม่


นายจารุพจน์ ณีศะนันท์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าจากการบริโภคในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วัตถุดิบต้นทาง โดยการนำเข้าถั่วเหลืองมีการเตรียมการสำหรับช่วงไตรมาสที่ 1 – 2 ของปี 2564 ไว้แล้ว เพื่อให้สามารถนำเข้าวัตถุดิบถั่วเหลืองได้ตามแผนการจัดซื้อและไม่เกิดความล่าช้า

ขณะที่แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น เป็นไปตามราคาเมล็ดถั่วเหลืองในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา มีแนวโน้มที่จะผลิตถั่วเหลืองได้ปริมาณน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนและค่าระวางเรือที่สูงขึ้นทั่วโลก แต่การนำเข้าวัตถุดิบถั่วเหลืองของบริษัทใช้เรือเทกองในการขนส่ง ไม่ใช่เรือตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้บริษัทมิได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนดังกล่าว ส่วนค่าระวางเรือเทกองที่มีการปรับเพิ่มขึ้น ก็เป็นการปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยตามอุปสงค์การจ้างเรือที่ปรับเพิ่มขึ้น

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่นี้ บริษัทต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับดำเนินมาตรการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ Business Continuity Management (BCM) ควบคู่ไปกับระบบ Bio-Security ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่บริษัทใช้ในการป้องกันโรค ASF (African Swine Fever) หรือ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ที่เคยระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน

โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงาน และดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด อาทิ การปรับรูปแบบให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) การใช้มาตรการคัดกรองและมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวด ทั้งภายในโรงงานและการจัดส่งสินค้าออกสู่ภายนอก เพื่อความมั่นใจของคู่ค้า ลูกค้า และผู้บริโภคในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของทีวีโอ” นายจารุพจน์ กล่าว

ทั้งนี้ ความคืบหน้าในการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 17/2563 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ได้มีมติแต่งตั้ง นายจารุพจน์ ณีศะนันท์ เข้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัท ในช่วงปี พ.ศ. 2548 – 2556 มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจของบริษัท โดยมุ่งมั่นจัดการวางโครงสร้างการบริหารและปฏิบัติงานของบริษัท เพื่อให้สามารถส่งต่อไปถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารท่านใหม่ได้อย่างราบรื่น และสอดรับกับนโยบายบรรษัทภิบาลของบริษัท ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเหมาะสม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไป โดยเมื่อกระบวนการสรรหาเสร็จสิ้น บริษัทจะนำส่งข่าวเรียนแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบผ่านตลาดหลักทรัพย์เป็นลำดับไป

Back to top button