
“มงคล” ปรับพอร์ตลดถือ “KTC-XPG-TPS” หลังเทขายครั้งใหญ่ 842 ล้านหุ้น
“มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ลดพอร์ต 3 หุ้นใหญ่ ขายหุ้น KTC กว่า 195 ล้านหุ้น ผ่าน 10 โบรกฯ ทำให้สัดส่วนลดเหลือ 5.13% หล่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ขณะเดียวกันขายหุ้น XPG จำนวน 630 ล้านหุ้น เหลือถือเพียง 0.19% ส่วน TPS ขายอีก 16.95 ล้านหุ้น เหลือถือ 12.55%
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน (แบบ 246-2) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยระบุว่า นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา ได้ดำเนินการขายหุ้นของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 จำนวนทั้งสิ้น 195,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.5630% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
โดยทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ไทย จำกัด,บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน),บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
ทั้งนี้ ภายหลังจากการขายหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้นายมงคล คงเหลือการถือครองหุ้น KTC จำนวน 132,466,600 หุ้น คิดเป็น 5.1376% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ และทำให้อันดับการถือหุ้นลดลงมาอยู่ในลำดับที่ 3 จากเดิมที่ถืออยู่จำนวน 327,466,600 หุ้นในสัดส่วน 12.7007%
ในวันเดียวกัน นายมงคล ยังได้เทขายหุ้น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG จำนวน 630,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.8877% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ผ่านบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยภายหลังทำรายการดังกล่าว ทำให้นายมงคล เหลือการถือครองหุ้น XPG จำนวน 21,209,995 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.1982% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ จากเดิมที่ถืออยู่จำนวน 651,209,995 หุ้น คิดเป็น 6.0859% ส่งผลให้หลุดจากรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 23 อันดับแรกใน XPG
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายมงคล ยังได้เทขายหุ้นของ บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS จำนวน 16,950,000 หุ้น คิดเป็น 4.0386% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยดำเนินการผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด (CGSI) ส่งผลให้หลังการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ นายมงคล คงเหลือหุ้น TPS ทั้งสิ้น 52,704,800 หุ้น คิดเป้นสัดส่วน 12.5577% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดในกิจการ จากเดิมที่ถืออยู่จำนวน 69,654,800 หุ้น คิดเป็น 16.5963%