วนลูปเดิม

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ในยามนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นสำหรับ “ม้าแก่ชำนาญทาง” ที่ถนัดเล่นสั้น ๆ เพราะกรอบการขยับตัวในแต่ละจังหวะยังไม่เปิดกว้าง จึงได้ทำได้แค่ “เคาะซ้าย เคาะขวา” วนลูปไปเรื่อย ๆ และทำให้รู้ว่า การขึ้นไปสร้างฐานเหนือแนวรับสำคัญ 1,520 จุด ค่อนข้างเป็นเรื่องยากในเวลาเช่นนี้ จึงไม่ควรซีเรียสกับบางเรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่คาดนะตัวเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ในยามนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นสำหรับ “ม้าแก่ชำนาญทาง” ที่ถนัดเล่นสั้น ๆ เพราะกรอบการขยับตัวในแต่ละจังหวะยังไม่เปิดกว้าง จึงได้ทำได้แค่ “เคาะซ้าย เคาะขวา” วนลูปไปเรื่อย ๆ และทำให้รู้ว่า การขึ้นไปสร้างฐานเหนือแนวรับสำคัญ 1,520 จุด ค่อนข้างเป็นเรื่องยากในเวลาเช่นนี้ จึงไม่ควรซีเรียสกับบางเรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่คาดนะตัวเอง

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเกริ่นเรื่องทำนองนี้ เพราะต้องการสะท้อนภาพความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด ซึ่งเหมือนกับท่าทีของ ตลท. ที่แสดงความมุ่งมั่นในการแก้ฟรีโฟลตให้ได้เร็วสุด พร้อมกับเดินหน้าตรวจสอบก๊วนไต้หวัน ขาโฉด..อุ๊ย..ขาโหด เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ได้ใจนักลงทุนทุกกลุ่ม เพราะกำลังทำในสิ่งที่สังคมต้องการพอดี จึงขอเป็นกำลังใจให้กับ “เฮียภากร” ด้วยนะคะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,515.72 จุด ลบไป 6.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.36 หมื่นล้านบาท คงไม่มีอะไรให้สาธยายมากนัก เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่อยู่ในความคาดหมายกันอยู่แล้ว “โมนิก้า” จึงขอเสริมแค่สิ่งที่ตลาดหุ้นจะเผชิญมีอยู่แค่ 2 เรื่องคือ “ขายเมื่อความจริงปรากฏ” กับ “ขายเมื่องบแย่กว่าที่คาด” และทั้งสองบริบทจะทำให้ตลาดหุ้นสวิงสวายแบบนี้ต่อไปอีกพักใหญ่ ๆ นะจะบอกให้

*ตัวอย่างที่ดีสุดในเที่ยวนี้คือ KTC โดนกระหน่ำขายอย่างหนักหน่วงจรดเย็น ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 72 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 6.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.62 พันล้านบาท ล้วนมาจากความผิดหวังเรื่องผลงาน จนมองไม่เห็นหนทางที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จึงขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบนี้ เดี๊ยนบอกได้แค่เพียงว่า วิถีการลงทุนมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ GPSC มีความพยายามจะฝ่าแนวต้าน 85 บาทขึ้นไปหลายรอบ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จดั่งใจหวังเสียที ! มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีกองทุนอีกเช่นกันว่า เขาให้แวลูอยู่ตรงไหนในอนาคต ? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับไปสืบเสาะข้อมูลมาประกอบการลงทุนอีกนิดหนึ่งว่า การยืนปิดที่ระดับ 81.25 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.19 พันล้านบาท ยังน่าลงทุนอะป่าว ?

*เช่นเดียวกับหุ้นขายยาง STA ไต่ระดับขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณ 35 บาทอีกครั้ง ท่ามกลางความคาดหวังในปี 64 น่าจะบรรเจิดไม่แพ้ปี 63 ก็เป็นอีกมุมที่นักเล่นต้องตามไปดูอีกเช่นกัน เพราะนาทีนี้ไม่มีหุ้นกลุ่มไหนเร้าใจเท่ากับหุ้นกลุ่มยาง จึงอยากให้ดูการขึ้นมาปิดที่ 32.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.59 พันล้านบาท ยังมีมุมให้เล่นอีกเยอะไหมเจ้าค่ะ

*ส่วนม้ามืดอย่าง RBF ถือเป็นทีเด็ดที่นักเล่นไม่ควรมองข้ามอีกเช่นกัน เพราะสตอรี่ของธุรกิจมีหลากหลายแง่มุมให้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของในมือที่เป็นโรงแรม และกลุ่มพาร์ตเนอร์ที่อยากเข้ามาจอยน์ หรือแม้กระทั่งกระแสกัญชง ล้วนเป็นข่าวมุมบวกที่แมงเม่าเม้าท์ถึงกันเป็นประจำ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินการขึ้นมายืนปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 978.29 ล้านบาท เรื่องไหนเป็นกระแสที่มีคนพูดถึงมากสุดนะคะ

*ช็อตดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น เถ้าแก่งก..อุ๊ย..เถ้าแก่น้อย TKN ขึ้นมาทันที ! เพราะการที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 11.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาท ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า เที่ยวนี้จะขึ้นไปยืนเหนือ 12 บาทได้ไหม ? เพราะเป็นเวลานานถึง 7 เดือนครึ่งที่หุ้นตัวนี้ไม่สามารถทำตามที่คาดหวังได้ แถมการขึ้นมาใกล้บริเวณดังกล่าวก็ทำให้ P/E ทะลักเกิน 40 เท่าทุกทีนะจ๊ะ

*ส่วนม้าตีนปลายอย่าง TSR กระชากขึ้นมายืนปิดที่ 3.82 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.93 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่น่ารักน่าลุ้นสุด ๆ เพราะเป็นการวิ่งขึ้นมาพร้อมกับกำไรโต จึงคาดหมายกันว่า ปีนี้จะแจ่มแจ๋วเหมือนปีที่ผ่านมา “โมนิก้า” จึงเลือกเม้าท์ถึงหุ้นยักษ์หลับตัวนี้ เพื่อแฟนคลับจะได้รู้ความเคลื่อนไหวว่า รอบนี้เขาขึ้นโดยพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ..เปรี๊ยะ !

Back to top button