TQR เทรดวันแรกลุ้นวิ่งเกิน 6 บ. กำไรโต-ศักยภาพแข่งขันสูง

TQR เทรดวันแรกลุ้นวิ่งเกิน 6 บบาท กำไรโต-ศักยภาพแข่งขันสูง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.พ.64) หุ้นสามัญของ บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินเป็นวันแรก

โดย TQR เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ที่ราคา 5.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 26.09% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ (Operational Efficiency Improvement Platform) คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 20 ล้านบาทภายในปี 64, การลงทุนพัฒนาแบบจำลองทางการเงิน (Financial Model) สำหรับธุรกิจการประกันภัยต่อ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบธุรกิจ ประมาณ 20 ล้านบาทภายในปี 2564 และเป็นเงินลงทุนอื่น ๆ

อนึ่ง TQR ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) ให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่อให้กับลูกค้า โดยมีรายได้จากการประกอบธุรกิจ คือ รายได้ค่าบริการ ซึ่งมาจากการให้บริการเป็นนายหน้าจัดหาสัญญาประกันภัยต่อ แบ่งตามลักษณะธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) และ ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) และรายได้อื่น ประกอบด้วย ดอกเบี้ยรับ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และหนี้สูญรับคืน

ทั้งนี้ รายได้หลักมาจากการให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่อ โดยบริษัทจะได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบของค่านายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Brokerage Fee) จากบริษัทรับประกันภัยต่อ โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 92.60-98.88% ของรายได้รวม

ณ วันที่ 25 ก.ย.63  บริษัทมีทุนจดทะเบียน 115 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 230 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 85 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 170 ล้านหุ้น โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนที่ออกและชำระแล้วเต็มจำนวน

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย นายอัญชลิน พรรณนิภา ถือหุ้น 59.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 35% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 25.87%, นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ถือหุ้น 42.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 18.48%, นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ ถือหุ้น 30.60 ล้านหุ้น คิดเป็น 18% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 13.30%, นายพรเกษม เหล่าฤทธิรัตน์ ถือหุ้น 20.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 12% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 8.87%, นายกฤษณ์ สุจเร ถือหุ้น 17 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 7.39%

ผลการดำเนินงานในปี 60-62 บริษัทมีรายได้รวม 104.96 ล้านบาท, 153.75 ล้านบาท และ 132.49 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 23.62 ล้านบาท, 32.88 ล้านบาท และ 44.04 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 22.50%, 21.39%  และเติบโตขึ้นเป็น 33.24% ในปี 62 ตามลำดับ

ในปี 61 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 48.79 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 46.48% จากปีก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเบี้ยประกันภัยต่อในสัญญาประกันภัยต่อกลุ่มประกันภัยรถยนต์ (Motor Insurance) สอดคล้องกับการขยายพอร์ตประกันภัยรถยนต์ของลูกค้าของบริษัทฯ ขณะที่ในปี 62 รายได้รวมลดลง  21.26 ล้านบาท หรือลดลง 13.83% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากสภาวะการแข่งขันของการประกันภัยต่อที่รุนแรงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มประกันภัยรถยนต์

ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนของปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 101.25 ล้านบาท กำไรสุทธิ 45.59 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 45.03% ณ วันที่ 30 มิ.ย.63 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 314.18 ล้านบาท หนี้สินรวม 257.31 ล้านบาท ส่วนของเจ้าของรวม 56.87 ล้านบาท

บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบเป้าหมาย Base case ที่ 6.7 บาท/หุ้น โดยใช้ค่าเฉลี่ยราคาจากวิธี DCF และ วิธีเทียบ PER โดยได้ค่าเฉลี่ย PER 17.9 เท่า โดยประเด็นสำคัญการลงทุนมีดังนี้

1) เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและโอกาสในการเติบโตสูง โดยเราประเมินอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยต่อปี 2563-65ที่ 12.6%/ปี (CAGR),

2) มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยมีจุดแข็งคือผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์, พันธมิตรแข็งแกร่งและสัญญาประกันภัยคลอบคลุมหลายประเภท,

และ 3) ผลตอบแทนสูง สถานะทางการเงินแข็งแกร่งรองรับการขยายธุรกิจ เนื่องจากเป็นธุรกิจบริการที่ใช้ทรัพยากรบุคคลเป็นหลักดังนั้นที่ผ่านมา บริษัทจึงมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรต่ำTQR

Back to top button