STGT ปักธงขายถุงมือยางปี 64 โต 14% รับออเดอร์ล่วงหน้ายาว

STGT ปักธงขายถุงมือยางปี 64 โต 14% รับออเดอร์ล่วงหน้ายาว มั่นใจดีมานด์เพิ่มต่อเนื่อง ทยอยเดินเครื่องจักร 4 โรงงานใหม่ หนุนกำลังผลิตแตะ 5 หมื่นล้านชิ้น/ปี


นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมถุงมือยางทั่วโลกในปี 64 คาดว่าจะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 20% จากปีที่ผ่านมา แม้ในปัจจุบันเริ่มมีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 และเริ่มทยอยฉีดแก่ประชาชนในหลายประเทศแล้ว แต่เนื่องจากทั่วโลกยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้การใส่ใจด้านสุขอนามัยกลายเป็น New Normal ดังนั้นผลิตภัณฑ์ถุงมือยางจึงยังเป็นที่ต้องการของวงการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องให้ความสำคัญด้านความสะอาด

โดยจากปัจจัยดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าปริมาณการขายถุงมือยางในปี 64 ที่ 32,000 ล้านชิ้น เติบโตราว 14%  จากปีก่อนหน้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อถุงมือยางธรรมชาติล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 13 เดือน และคำสั่งซื้อถุงมือยางไนไตรล์ล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 30 เดือน รวมถึงยังไม่เห็นสัญญาณการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าในปัจจุบัน

นอกจากนี้บริษัทวางแผนทยอยเดินเครื่องจักรโรงงานใหม่อีก 4 แห่ง ในทุกๆ ไตรมาสของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านชิ้นต่อปี จากสิ้นปี 63 อยู่ที่ประมาณ 33,000 ล้านชิ้นต่อปี

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานปี 63 ถือเป็นปีที่สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ทั้งในด้านกำไรสุทธิและรายได้รวม โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 14,401 ล้านบาท เติบโต 2,246% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 614 ล้านบาท  ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 30,405 ล้านบาท เติบโต 154% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีรายได้รวม 11,994  ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบปีที่ผ่านมา เติบโตอย่างโดดเด่นทุกไตรมาส โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/63 สามารถทำกำไรสุทธิ 8,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,602% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 181 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 13,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 3,138 ล้านบาท

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้น มาจากความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3.6 แสนล้านชิ้นต่อปี และมีดีมานด์กระจายตัวในหลากหลายอุตสาหกรรม จากเดิมที่ใช้ในทางการแพทย์เป็นหลัก จึงทำให้บริษัทฯ มีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับซัพพลายทั่วโลกยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยของถุงมือยางในตลาดโลกปรับขึ้นเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button