EP เร่งติดตั้ง “วินด์ฟาร์มเวียดนาม” 4 โครงการ 160 MW คาดทยอย COD ต.ค.นี้

EP เร่งติดตั้ง “วินด์ฟาร์มเวียดนาม” 4 โครงการ 160 MW คาดทยอย COD ต.ค.นี้


นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (ECP) ในประเทศเวียดนามว่า ปัจจุบันใบพัดและเสากังหันลมได้ทยอยลำเลียงขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับถนนทางเข้าโครงการและพื้นที่สำหรับตั้งเสาก็มีความพร้อมเช่นกัน จึงคาดว่าจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้ง 4 โครงการได้ตามแผนในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้

โดยโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (ECP) ประเทศเวียดนาม จังหวัด Gia Lai ขนาดกำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ มีทั้งหมด 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ HL3 จำนวน 30 เมกะวัตต์ โครงการ HL4 จำนวน 30 เมกะวัตต์ โครงการ TN จำนวน 50 เมกะวัตต์ และโครงการ MN จำนวน 50 เมกะวัตต์ โดยมูลค่าการลงทุน รวมประมาณ 223.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,040.92 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จะส่งผลให้ฝ่ายบริหารไม่สามารถเดินทางไปดูความคืบหน้าได้ด้วยตนเอง แต่ทางบริษัทได้ว่าจ้างผู้รับเหมา  คือ บริษัท POWER CHINA ซึ่งมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมมามาก ทั้งในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ อีกทั้งยังได้ว่าจ้าง OWNER ENGINEER เป็นวิศวกรที่ปรึกษา คือ บริษัท แทกเกอร์ เบล ซึ่งเป็นบริษัทรักษ์โลกและมีประสบการณ์ในด้านพลังงานลม เพื่อมาช่วยดูแลด้านการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและพูดคุยกับพันธมิตรทางเวียดนามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังผลิตประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกช่องทางหนึ่ง

ในส่วนของรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วน คืองานพิมพ์อยู่ที่ประมาณ 70% และงานบรรจุภัณฑ์และ Packaging 30% ในปัจจุบันแม้ว่างานพิมพ์จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 มีการปิดตัวของสำนักพิมพ์หลายฉบับ แต่ในด้านบรรจุภัณฑ์และPackaging มีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อสินค้าแบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทำให้แนวโน้มของบรรจุภัณฑ์มีความต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

Back to top button