ปิดกะโหลกหนักกว่าทายท้าวิชามาร

“หากไม่สงบเรียบร้อยผมก็ต้องอยู่...หากไม่เลิกกันก็อยู่กันอย่างนี้ ปิดประเทศก็ปิดกันไป”


“หากไม่สงบเรียบร้อยผมก็ต้องอยู่…หากไม่เลิกกันก็อยู่กันอย่างนี้ ปิดประเทศก็ปิดกันไป”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าววาทะลือลั่น แต่ท่านก็มีสติปัญญาพอที่จะรู้ว่าทำอย่างนั้นจริงไม่ได้ แค่พูดด้วยความหงุดหงิดใจที่มีคนต่อต้าน ไม่ยอมรับ ไม่เชื่อฟัง

โถ ถ้าปิดประเทศจริง เกิดปัญหา เศรษฐกิจไปลำบาก คสช.ก็อยู่ยากเหมือนกัน ทำไมท่านจะไม่รู้

เรื่องตลกคือกองเชียร์สิครับ สนับสนุนเป็นจริงเป็นจัง  กระทั่งทำโพลล์ยังมีคนเห็นด้วยมากกว่า 55% แม้ไม่ค่อยเชื่อโพลล์ยุคนี้เท่าไหร่ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า คนที่ปิดกะโหลกยังมีอยู่มากมายในประเทศนี้

ใช่เลย “ประเทศไทยเป็นชาติที่มั่งคั่งด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง” บอกด้วยสิว่าไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน ไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกและนำเข้า (แค่ตัวเลขส่งออกตกไหงจะเป็นจะตาย) ไม่เอานักท่องเที่ยว (เอาจีนก็พอ) อยู่ได้แบบพอเพียง (คนชนบทอยู่ได้ แต่พวกคนกรุงเชียร์รัฐประหารสิ พอเพียงจริงหรือเปล่า เห็นแต่เข้าห้างแบรนด์เนม ส่งลูกเรียนอังกฤษ อเมริกา)

บางคนบอกว่าดูอย่างจีนรัสเซีย ปิดประเทศยังเจริญได้ โถคนมีการศึกษา แต่ไม่อ่านประวัติศาสตร์โลก อ่านแค่หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยฉบับแถมลายเซ็น (แล้วภูมิใจว่าเกิดในประเทศที่ไม่เหมือนใคร) ไม่รู้หรือไงพรรคคอมมิวนิสต์จีนปิดประเทศ เศรษฐกิจพังทลาย เกือบฉิบหายยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ต้องค่อยๆ เปิดประเทศมา 30 กว่าปี แบบเดียวกับสหภาพโซเวียตล่มสลาย

สื่อไทยไม่เอาเลือกตั้งพยายามเชิดชูจีน รัสเซีย ว่าทำไมต้องเป็นประชาธิปไตยอย่างยุโรป อเมริกา เห็นไหม ผู้นำจีนไปอังกฤษยังส่งราชรถมาต้อนรับ รัสเซียก็กำลังเป็นพระเอกในซีเรีย  โถ คุณมีกำลังซื้ออย่างจีนหรือเปล่า จีนเจริญเพราะระบอบพรรคเดียวจริงหรือ เศรษฐกิจจีนโตพรวดพราดเพราะเป็นตลาดใหม่ แรงงานราคาถูก พรรคคอมมิวนิสต์จีนอยู่ได้ด้วยการขายฝันคนอยากรวย แต่ยิ่งรวยยิ่งเหลื่อมล้ำ ยิ่งมีปัญหาตั้งแต่คอร์รัปชั่นไปถึงมลภาวะ เศรษฐกิจชะงักเมื่อไหร่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนเจอมรสุมใหญ่เมื่อนั้น

ปูตินก็ขายฝันไปอีกแบบ ขายความนิยมคนรัสเซียที่ยังหวนหาอดีตสมัยสหภาพโซเวียตยิ่งใหญ่ (คนไทยจะขายฝันว่าในอดีตพระนเรศวรเป็นเจ้าอาเซียนก็ได้นะ)

เศรษฐกิจไทยไม่ได้ใหญ่อย่างจีน ไม่ได้มีทรัพยากรมากอย่างรัสเซีย ตั้งแต่อดีตจนอนาคต พัฒนาด้วยการเป็น “ประเทศเปิด” เป็นศูนย์กลางคมนาคม มีเสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร มีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างรับความหลากหลาย เราจึงตั้งเป้าไปสู่ “ศูนย์กลางอาเซียน” ซึ่งไม่ใช่แค่ “ชุมทางรถไฟ”

ถ้าประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่สงบราบคาบ แต่จำกัดเสรีภาพ ไม่ยอมรับความคิดต่าง บังคับทุกคนต้องเชื่อฟัง อยู่ใต้วัฒนธรรมพนมมือพับเพียบ เราก็ไม่ต่างอะไรกับเพื่อนบ้าน อาจด้อยกว่าเขาหลายด้านด้วยซ้ำ

อันที่จริงผมเชื่อว่าคนที่เชียร์ปิดประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่โง่หรอก รู้ดีว่าปิดประเทศไม่ได้ แต่ที่เชียร์ก็เพราะเกลียดชังคนฝ่ายตรงข้าม ต้องการเห็นคนเห็นต่างถูกปราบปรามจนราบคาบ ยอมแลกกับการปิดประเทศชั่วคราว เพราะเชื่อว่าตัวเองเป็นคนชั้นบนคนมีฐานะ ไม่เดือดร้อน

นี่ต่างหาก ปิดกะโหลกแบบไทยๆ

 

                                                                                                                ใบตองแห้ง

Back to top button