สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ก.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 ก.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,933.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.44 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,374.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.12% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,644.95 จุด ลดลง 32.70 จุด หรือ -0.22%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสัญญาณบ่งชี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทางร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในทวีปยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 460.56 จุด ลดลง 0.40 จุด หรือ -0.087%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,558.38 จุด ลดลง 0.09 จุด หรือ -0.001%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,788.98 จุด ลดลง 0.66 จุด หรือ -0.004% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,091.19 จุด ลดลง 33.53 จุด หรือ -0.47%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแผนการเปิดเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,091.19 จุด ลดลง 33.53 จุด หรือ -0.47%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังมีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) สามารถบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.80% ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.30% ปิดที่ 74.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 1,825 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.2564

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.10 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 26.271 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.90 ดอลลาร์ หรือ 1.52% ปิดที่ 1,128.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6.20 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 2,826.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.38% แตะที่ 92.4050 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.00 เยน จากระดับ 110.59 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9146 ฟรังก์ จากระดับ  0.9186 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2508 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2518 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1782 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3852 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3820 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7477 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7445 ดอลลาร์

 

Back to top button