WTI ร่วง 7 วันติด! วิตก “โควิด” ฉุดดีมานด์ทั่วโลกลดฮวบ

WTI ปิดร่วง 7 วันติด โดยเมื่อคืนปิดที่ 1.37 ดอลล์ หลังนลท.เทขายสัญญาน้ำมันดิบท่ามกลางความกังวล ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงทั่วโลก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาท่ามกลางความวิตกว่า ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.20% ปิดที่ 62.32 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 8.90% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.90% ปิดที่ 65.18 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 7.70% ในรอบสัปดาห์นี้

ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์วิตกว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน

ด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกรายงานเตือนว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะฉุดความต้องการใช้น้ำมันลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

อีกทั้ง IEA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2564 ลงสู่ระดับ 5.30 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 5.40 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ดี IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในปี 2565 สู่ระดับ 3.20 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 3 ล้านบาร์เรล/วัน

นอกจากนี้ IEA ยังคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอย่างมากทั่วโลกในปีหน้า หากกลุ่มโอเปกพลัสเดินหน้าตามแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน

 

 

Back to top button