MORE ขายลูกแลกถือหุ้น “HEMP” เพิ่มทุน 3 พันลบ. PP “เมย์พลัส” รับแร่ไพโรลูไซต์แทนเงินสด

MORE ขายบ.ลูก MMD แลกเข้าถือหุ้น “HEMP” พร้อมขายเงินลงทุน PROP มูลค่ารวมทั้งสิ้น 250 ล้านบาท ให้แก่ นายศิวพร ตั้งจิตตพร นอกจากนี้มีการเพิ่มทุน 3 พันลบ. เพื่อจัดสรรให้บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) บริษัท เมย์พลัส 2005 จำกัด รับค่าตอบแทนแร่ไพโรลูไซต์แทนการชำระด้วยเงินสด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ย. 64) บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2564 มีมติอนุมัติให้ขายหุ้นใน บริษัท มอร์ เมดดิคัล จำกัด หรือ MMD ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MORE ถือหุ้น 99.99% ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนและชำระแล้วของ MMD จำนวน 249,998 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ให้แก่ บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP ในราคาไม่เกิน 200,000,000 บาท โดย HEMP จะออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,655,262,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย 0.12083 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 200,000,000 บาท ให้แก่บริษัทเพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนสำหรับการซื้อหุ้นสามัญของ MMD แทนการชำระด้วยเงินสด

ทั้งนี้บริษัทจะมีสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของ HEMP ซึ่งมีทิศทางในการดำเนินธุรกิจสมุนไพร และสุขภาพที่สามารถต่อยอดธุรกิจของ MMD ได้เป็นอย่างดีในอนาคต และสร้างผลตอบแทนสะท้อนมายังหุ้นของ HEMP และสร้างผลตอบแทนให้บริษัทได้ในอนาคต และบริษัทสามารถมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจของบริษัทไปยังสาธารณูปโภคได้อย่างชัดเจน

ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติให้ขายเงินลงทุนใน บริษัท มอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ PROP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 38,400,000 หุ้น หรือคิดเป็น 99.99% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ PROP มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาจำหน่ายหุ้นละ 6.51 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 250,000,000 บาท ให้แก่ นายศิวพร ตั้งจิตตพร ซึ่งเป็นนักลงทุนในตลาดทุนที่มีชื่อเสียงอีกทั้งยังเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สำหรับการจำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดใน PROP เนื่องจากผลประกอบการของ PROP ยังไม่สะท้อนผลกำไรออกมาได้อย่างชัดเจน บริษัทคาดว่าภายหลังการทำรายการดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจที่สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าธุรกิจเดิมต่อไป และบริษัทฯจะนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน PROP ในครั้งนี้เพื่อลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการน้ำครบวงจร น้ำประปา บำบัดน้ำเสีย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการของบริษัทต่อไป

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการยกเลิกมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2563 วาระที่ 5 (1) เรื่องการอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลเฉพาะเจาะจง (Private Placement) รวม 3,000,000,000 หุ้น ให้แก่ นายภัทรเดช พูลเกิด 1,000,000,000 หุ้น นายธนอรรถ ตรีธิติธัญ 1,000,000,000 หุ้น และนายเฉลิมพงษ์ มหาวาณิชย์วงศ์ 1,000,000,000 หุ้น เนื่องจากการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวนั้นมิได้ดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่มีมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น

โดยบริษัทจะลดทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท จาก 503,793,579.75 บาท เป็น 353,793,579.75 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้จำหน่าย 3,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.05 บาท และให้เพิ่มทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท เป็น 453,793,579.75 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.05 บาท เพื่อจัดสรรให้บุคคลเฉพาะเจาะจง (Private Placement) จำนวน 1 ราย ได้แก่ บริษัท เมย์พลัส 2005 จำกัด ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 3,000,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนแร่ไพโรลูไซต์แทนการชำระด้วยเงินสด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้ลงทุนจะชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทด้วยแร่ไพโรลูไซต์แทนการชำระด้วยเงินสด (Payment in Kind)

อย่างไรก็ตามภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนข้างต้น ผู้ลงทุนจะถือหุ้นในบริษัทรวมกันเป็นจำนวนไม่เกิน 2,000,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 23.44% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท (ภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วของบริษัทหลังจากการออกเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้)

สำหรับโครงการขายแร่กรองน้ำไพโรลูไซต์ เป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยเป็นการบำบัดน้ำใช้และน้ำดื่มให้ได้น้ำที่มีมาตรฐานเหมาะสำหรับการใช้งานในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านการอุปโภค ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมิใช่เป็นธุรกิจใหม่ แต่เป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิม จึงมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจตามโครงการตามที่เสนอ

 

Back to top button