RCL แย้มครึ่งปีหลังโตเด่น เสริมทัพกองเรือใหม่หนุน รับค่าระวางสูง-ดีมานด์เพิ่ม

RCL ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง จากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และเรือ ทำให้แนวโน้มค่าระวางจะสูงขึ้น อีกทั้งเดินหน้าซื้อเรือเพิ่มเพื่อรองรับดีมานด์และเตรียมรองรับขาขึ้นของธุรกิจเดินเรือใน 1 - 2 ปีนี้


นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโสหัวหน้าภูมิภาค ปฏิบัติการและธุรกิจ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL เปิดเผยว่า จากผลประกอบการไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไร 3.20 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 14 เท่าของผลประกอบการในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากความต้องการขนส่งสินค้าประเภท สินค้าอุปโภค เวชภัณฑ์ และสินค้าจากอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มสูงขึ้นในสถานการณ์โควิด-19

อีกทั้งคาดว่าจะยังคงสูงต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3/2564 และไตรมาส 4/2564 ประกอบกับการที่หลายท่าเรือสำคัญในต่างประเทศ ติดขัด หนาแน่นทำให้การหมุนเวียนช้าลง จึงทำให้ขาดแคลนจำนวนตู้คอนเทนเนอร์และเรือ ทำให้แนวโน้มค่าระวางจะสูงขึ้น

ทั้งนี้บริษัทฯได้เล็งเห็นถึงอัตราการเจริญเติบโตของปริมาณสินค้าในภูมิภาคเอเชียที่จะเติบโตสูงสุดในโลกในเวลาอันใกล้ โดยจะมีสามเสาหลัก จีน อาเซียน และ อินเดีย ดังนั้นทางบริษัทฯจึงให้ความสนใจในการลงทุนกองเรือที่จะมาให้บริการในภูมิภาคนี้มากขึ้น นอกจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลแล้ว บริษัทในกลุ่มยังดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ได้แก่ บริหารท่าเรือ คลังสินค้า ลานตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งทางบกและทางน้ำในประเทศ และยังขยายการให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศอื่นๆที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน และอินเดีย

ขณะเดียวกันบริษัทฯมีนโยบายในการสนับสนุนการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ได้สนับสนุน Sea Group (Garena, Shopee, SeaMoney) ในการขนส่งถังออกซิเจน จำนวน 1,500 ถัง จากประเทศจีน ด้วยเรือ METHI BHUM เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในประเทศไทย โดยบริษัทฯเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางเรือ ดำเนินพิธีการขาเข้าและมีแผนจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายรวมถึงการขนส่งเพื่อกระจายถังออกซิเจนไปยังโรงพยาบาลที่มีความต้องการความช่วยเหลือภายในเดือนก.ย. 2564 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้ด้วย

“เพื่อการบริหารที่แม่นยำและฉับไวต่อสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจ มันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะนำระบบ IT ต่างๆ มาใช้ บริษัทฯจึงได้พัฒนาระบบไม่ว่าจะเป็นระบบศูนย์กลางที่สร้างโปรแกรมใหม่ของ RCL ขึ้นเอง รวมถึงระบบที่นำจากภายนอกมาใช้ เช่น ระบบหุ่นยนต์ สำหรับทำงานซ้ำซาก ให้รวดเร็วขึ้น และ Business Intelligence ให้เป็นจุดรวมศูนย์และการแสดงข้อมูลของการปฏิบัติงานจากส่วนต่างๆ เพื่อการบริหารและเข้าถึงการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมและรวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น” นายทวินโชค กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯพร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยการซื้อเรือพร้อมใช้เพิ่มอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2564 ซึ่งได้ทำการซื้อเรือเข้ามาแล้ว 5 ลำ ขนาด 6,000TEUs 2 ลำ 3,000TEUs 2 ลำ และ 1,500TEUs 1 ลำ และล่าสุดเซ็นสัญญาสั่งต่อเรือใหม่อีก 2 ลำ เมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นเรือขนาด 12,000 TEUs เพื่อเตรียมรองรับขาขึ้นของธุรกิจเดินเรือใน 1 – 2 ปีนี้

 

Back to top button