เทียบฟอร์มหุ้น “วิศวกรรมก่อสร้าง” สุดเจ๋ง! ชู TEAMG เด่น รายได้ – กำไรโตต่อเนื่อง

เทียบฟอร์มหุ้นกลุ่ม "วิศวกรรมก่อสร้าง" ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 64 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย พร้อมชู TEAMG โดดเด่นสุด ทั้งในส่วนของรายได้ กำไร และ P/E


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับหุ้นบริษัทในกลุ่มวิศวกรรมก่อสร้าง ที่คาดว่าธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง

โดยวันนี้ (17 ก.ย.64) ทีมข่าวได้คัดหุ้นที่น่าสนใจเพื่อนำมาเสนอให้กับนักลงทุนจำนวน 3 หลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS, บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG และ บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND 

สำหรับข้อมูลสำคัญทางการเงินของทั้ง 3 บริษัท มีดังนี้

ทั้งนี้ จากตารางดังกล่าวจะเห็นได้ว่า หุ้นที่โดดเด่นสุด คือ TEAMG เนื่องจากเป็นบริษัทเดียวที่ผลประกอบการมีกำไรสุทธิ รวมถึง P/E Ratio ที่อยู่ในระดับที่สูง (งบการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2564)

ขณะที่ล่าสุด TEAMG เปิดเผยว่า บริษัท และ บริษัท ทีม เอสคิว จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท) ได้ลงนามในสัญญาจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (Project Management Consultant : PMC) โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะแรก มูลค่าโครงการ 415.61 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการ 52 เดือน

โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็น “สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3” และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม รวมทั้งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของประเทศไทย ตลอดจนสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบินของไทยในภูมิภาคนี้ โดยบริษัทจะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ สนับสนุน การดำเนินงานของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในการบริหารโครงการโดยรวมทั้งพื้นที่ 6,500 ไร่ ในช่วงการก่อสร้างพัฒนาระยะแรก ของสัญญาร่วมทุนระหว่าง สกพอ. กับเอกชนคู่สัญญา

ด้าน นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAMG กล่าวว่า การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ บริษัทจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน การดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในการบริหารโครงการโดยรวมทั้งพื้นที่ 6,500 ไร่ ในช่วงการก่อสร้างพัฒนาระยะแรก ของสัญญาร่วมทุนระหว่าง สกพอ.กับเอกชนคู่สัญญา โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างอยู่ที่ 52 เดือน หรือจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2569

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทเซ็นสัญญารับบริหารพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาของ EEC ไปแล้ว บริษัทฯยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 64 จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าร่วมประมูลในหลายโครงการ โดยล่าสุดบริษัทมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ประมาณ 3,700 ล้านบาท หากมีการเซ็นสัญญาเพิ่ม เชื่อว่าจะส่งผลให้มี Backlog ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท

ขณะที่ นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร TEAMG กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 บริษัทประเมินว่ารายได้รวมจะยังทรงตัวจากไตรมาส 2/2564 และไตรมาส 3/2563 เนื่องจากมีผลกระทบการปิดแคมป์คนงาน 1 เดือน (ก.ค. 2564) หรือกระทบรายได้ประมาณ 20% ขณะที่ปัจจุบันแคมป์คนงานสามารถกลับมาเปิด และโครงการก่อสร้างต่าง ๆ กลับมาเป็นปกติแล้ว ซึ่งยังสามารถสร้างรายได้ใหม่เฉลี่ยมากกว่าเดือนละ 100 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกรวมกว่า 3,300 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ตามสัญญางาน และมองว่าจะสามารถได้รับงานใหม่ หรือชนะการประมูล เข้ามาเสริมพอร์ตต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 น่าจะมีหนุนแบ็กล็อกเพิ่มขึ้นแตะ 3,600-3,700 ล้านบาท ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่ได้รับมายังคงเป็นงานโครงการภาครัฐ ส่วนงานภาคเอกชนยังคงชะลอตัว ดังนั้นบริษัทยังคงเป้าหมายมีรายได้รวมในปี 2564 เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,721 ล้านบาท

นอกจากนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดี หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ตามการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้ในวงกว้าง อีกทั้งนับตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2563 หรือเดือน ส.ค. 2564 โครงการภาครัฐขนาดใหญ่ในพื้นที่พัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) เริ่มเดินหน้า ได้แก่ โครงการสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก (EEC) ที่สรุปโครงการแล้ว และรอเซ็นสัญญาเดือนนี้ ส่วนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ล่าสุดทางบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จํากัด (กลุ่มซีพี) ได้เข้าบริหารจัดการแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ตามกำหนด ด้านงานเวนคืน ทางบริษัทก็เร่งรัดเต็มที่ และงานนอกพื้นที่กทม.ก็ได้เริ่มดำเนินการแล้ว เป็นต้น

Back to top button