ครม.เคาะ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 – ทัวร์เที่ยวไทย” ดีเดย์ ต.ค.นี้

ครม.ไฟเขียว "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย" เริ่มใช้สิทธิได้ ต.ค.นี้ ทั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯทั้ง 2 โครงการ เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 และกำหนดให้ปชช.ใช้สิทธิได้ไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 65


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” และ “โครงการทัวร์เที่ยวไทย” โดยเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯทั้ง 2 โครงการ เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 และกำหนดให้ประชาชนใช้สิทธิได้ไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2565 พร้อมให้ ททท. เร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน รายละเอียด ดังนี้

1.โครงการทัวร์เที่ยวไทย ปรับ 2 หลักเกณฑ์ ได้แก่ (1) เปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดสามารถเดินทางได้ทุกวัน จากเดิมเดินทางได้เฉพาะวันอาทิตย์ – พฤหัสบดี (2) เพิ่มรายการนำเที่ยว เป็น 30 รายการต่อบริษัท จากเดิม 15 รายการต่อบริษัท โดย ททท. ได้เตรียมความพร้อมสำหรับแพลตฟอร์มการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

2.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ขณะนี้ได้เตรียมเปิดลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการที่จะสมัครเข้าร่วม โครงการตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 1 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการและให้ประชาชนใช้สิทธิท่องเที่ยวในเดือนตุลาคม นี้

สำหรับในส่วนของรายละเอียดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 คือ รัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40% (ไม่เกิน 3,000 บาท/ ห้อง/คืน) สนับสนุนคูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% (ไม่เกิน 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท โดยดูตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด) ส่วนโครงการทัวร์เที่ยวไทยนั้น รัฐสมทบเงินให้ 40% ของราคาแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน

อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้การปรับปรุงรายละเอียดของทั้ง 2 โครงการจะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่พัก/โรงแรม/ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการต่างๆของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันโรค ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงในช่วงระหว่างดำเนินโครงการ ททท. ก็สามารถขอยุติดำเนินโครงการฯได้ทั้ง 2 โครงการ

 

 

Back to top button