BRR เริ่มผลิตบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย 1 ต.ค.นี้ ทยอยส่งมอบลูกรายใหญ่สหรัฐ

BRR พร้อมเริ่มเดินเครื่องผลิตบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย เฟส 1 ทยอยส่งลูกรายใหญ่สหรัฐ 1 ต.ค.นี้ ส่วนเฟส 2 คาดเริ่มผลิตไตรมาส 1/65 ก่อนผลิตเต็มรูปแบบ 10 ล้านชิ้นต่อเดือนกลางปี 65


นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด (SEW) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BRR เตรียมผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM) ให้กับ Amercare Royal ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้นำเข้ารายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจำหน่ายแก่เชนร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งใช้กำลังการผลิตรวมจำนวน 10 เครื่อง รวมกำลังการผลิต 10 ล้านชิ้นต่อเดือน ภายใต้สัญญาระยะยาว

สำหรับความคืบหน้าโครงการดังกล่าวในเฟสแรกจะใช้เครื่องจักรจำนวน 4 เครื่อง เพื่อผลิตสินค้าป้อนความต้องการได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลังจากโมลขึ้นแบบผลิตภัณฑ์ในลอตแรกจำนวน 2 ชุด จะเดินทางถึงประเทศไทยและดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จภายในปลายเดือนนี้ พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ส่วนโมลอีกจำนวน 2 ชุดนั้น จะมาถึงประเทศไทยในกลางเดือนตุลาคมนี้ และนำมาติดตั้งพร้อมเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ขณะที่เฟสที่ 2 นั้น คาดว่า SEW มีแผนทยอยสั่งผลิตโมลอีก 6 ชุด ที่จะเข้ามาติดตั้งในโรงงานเพิ่มเติมในลำดับถัดไป เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของคู่ค้าดังกล่าว และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/2565

ขณะเดียวกัน บริษัท Southern Champion Tray หรือ SCT ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมของ SEW ที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ ดำเนินการผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยภายใต้ OEM แล้วจำนวน 1 เครื่อง มีความต้องการเพิ่มไลน์การผลิตสินค้าอีก 1 เครื่อง เพื่อส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม และเมื่อรวมกับเครื่องจักรอีก 2 เครื่อง ที่ป้อนความต้องการตลาดภายในประเทศแล้ว จะทำให้กำลังการผลิตของ SEW ที่มีเครื่องจักร 14 เครื่อง เดินเครื่องเต็ม 100% ภายในกลางปี 2565

“การผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยของเรา สอดคล้องความต้องการของโลกที่ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ DinCerto EN13432 จาก DinCerto TUVRheinland ประเทศเยอรมนีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน จะช่วยให้เราสามารถขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่มยุโรปเพิ่มเติมในอนาคต” นายอนันต์ กล่าว

Back to top button