ส่องมาตรการ “พักหนี้-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ” ช่วยเหลือน้ำท่วม

กระทรวงการคลัง จัดทำสรุปมาตรการ"พักหนี้-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ" ของ 7 สถาบันการเงินรัฐ ช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ทำให้มีเงินหมุนเวียน ช่วยฟื้นฟูกิจการ


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบการผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยการพักชำระหนี้และสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ธนาคารออมสิน

  1. มาตรการพักชำระหนี้ โดยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อทุกประเภท สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
  2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน

2.1 สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี ในปีแรก ปลอดชำระคืนเงิน 3 เดือนแรก และระยะเวลาผ่อนชำระ 3 – 5 ปี

2.2 สินเชื่อเคหะ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี ในปีแรก ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 40 ปี

2.3 สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 10 ของวงเงินกู้เดิม แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ในปีแรก ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี ระยะผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี

ทั้งนี้ สามารถยื่นคำขอสินเชื่อภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ประกาศภัยพิบัติหรือวันที่ประสบภัยพิบัติ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

  1. มาตรการพักชำระหนี้ โดยการพักชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน และไม่คิดดอกเบี้ยปรับ
  2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน และระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์

  1. สำหรับลูกค้าเดิมที่หลักประกันได้รับความเสียหาย สามารถขอรับการลดดอกเบี้ยเหลือ 0% ต่อปี เป็นระยะเวลา 4 เดือน
  2. สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ประสงค์ยื่นขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างทดแทนอาคารเดิม หรือเพื่อซ่อมแซมอาคาร วงเงินกู้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ในปีแรก และ MRR – 3.5% ต่อปี หรือ 3% ในปีที่ 2 – 3
  3. ลูกหนี้มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan : NPL) ที่หลักประกันได้รับเสียหาย สามารถขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยใน 4 เดือนแรก และเดือนที่ 5 ถึงเดือนที่ 16 อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี
  4. ลูกหนี้ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ สามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1% ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี
  5. ลูกหนี้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร สามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาคงเหลือ
  6. หลักประกันเสียหายทั้งหลัง ไม่สามรถซ่อมแซมได้ สามารถขอรับปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินคงเหลือเท่านั้น
  7. สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัยที่ทำกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ จะพิจารณาจ่ายเงินสินไหมให้แก่ลูกค้าอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

  1. มาตรการพักชำระหนี้

1.1 สำหรับลูกค้าที่มีการกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term Loan) จะได้รับการพักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน

1.2 สำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note : P/N) จะได้รับพักชำระดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน

  1. มาตรการสินเชื่อฉุกเฉิน อัตราดอกเบี้ย 4.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลากู้สูงสุด ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี

2.1 หากลูกหนี้มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 5 แสนบาท

2.2 หากลูกหนี้มีวงเงินอนุมัติรวมมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท

2.3 หากลูกหนี้มีวงเงินอนุมัติรวมมากกว่า 5 ล้านบาท จะได้รับวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมวงเงินเดิมแล้วไม่เกิน 15 ล้านบาท

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) พร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นพิเศษ

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยการพักชำระหนี้เงินต้น ชำระเฉพาะกำไรเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และให้ขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป ไม่เกินระยะเวลาที่พักชำระ และยกเว้นค่าชดเชยผิดนัดชำระ (Late charge) โดยสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

  1. มาตรการช่วยเหลือลูกค้า SMEs สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นลูกค้าของ บสย. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และหนังสือค้ำประกันสินเชื่อลงวันที่ตั้งแต่ 15 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับการพักชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อและค่าจัดการค้ำประกัน (ถ้ามี) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
  2. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ บสย.

2.1 มาตรการลดค่างวด โดยการผ่อนจ่าย 20% หรือจ่ายขั้นต่ำ 500 บาท สูงสุด 3 เดือน และการพักดอกเบี้ยเกิดใหม่ หรือ

2.2 มาตรการพักชำระหนี้ สำหรับลูกค้า บสย. ที่ค้างชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือน โดยการพักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน และพักดอกเบี้ยเกิดใหม่

ทั้งนี้ สามารถยื่นคำขอเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564

“มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปี 2564 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จะสามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ทำให้มีเงินหมุนเวียน ช่วยฟื้นฟูกิจการ รวมถึงปรับปรุงและซ่อมแซมอาคาร เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้” นายพรชัย กล่าว

Back to top button