ERW ขาย 2 โรงแรมสมุย ลุ้น Q4 บันทึกกำไรพิเศษ 925 ลบ.

ERW ขาย 2 โรงแรมสมุย “เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา-ไอบิส สมุย บ่อผุด” รับเงิน 925 ลบ. คาดกระบวนการแล้วเสร็จภายใน 30 ธ.ค. 64 โบรกฯ มองช่วยลดผลขาดทุนราว 10 ลบ./ปี ลุ้น Q4 บันทึกกำไรพิเศษ


บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ระบุว่า บริษัทได้เข้าทำสัญญาสำหรับการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท มูลค่ารวม 925 ล้านบาท ได้แก่ (1) การจำหน่าย โรงแรมเรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่เลขที่ 208/1 หมู่ 4 ตำบลมะเร็ต หาดละไม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อาร์เคเอส) โดยการขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ในบริษัทย่อยของบริษัท ได้แก่ บริษัท เอราวัณ สมุย จำกัด (บริษัทเอราวัณสมุย) ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการ และเป็นเจ้าของอาร์เคเอส

โดยจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ในบริษัทเอราวัณสมุย ให้แก่ บริษัท อินฟีนิตี้ ฮอสพิแทลลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท จำนวน 69,499,996 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในบริษัทเอราวัณสมุย มูลค่าที่ตรา 2ไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาขายรวมทั้งสิ้น 531,000,000 บาท โดยชำระราคาขายเป็นเงินสด (การจำหน่ายอาร์เคเอส)

รวมทั้งการจำหน่ายโรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด ตั้งอยู่เลขที่ 197 หมู่ 1 หาดบ่อผุด ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ไอเอสเอ็ม) โดยการจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอเอสเอ็มที่บริษัทเป็นเจ้าของ

โดยจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ ไอเอสเอ็ม ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ที่ดินจำนวน 2 แปลง (2) อาคารและสิ่งปลูกสร้าง (3) สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาการให้สิทธิ (Franchise Agreement) (4) บุคลากรของไอเอสเอ็ม และ (5) ทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง หรือทรัพย์สินใด ๆ ทั้งปวงที่ใช้สำหรับการดำเนินกิจการไอเอสเอ็ม ให้แก่บริษัท อินฟีนิตี้ นอร์ท สมุย จำกัด ซึ่งไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคาขายรวมทั้งสิ้น 394,000,000 บาท โดยชำระราคาขายเป็นเงินสด (การจำหน่ายไอเอสเอ็ม)

โดยวัตถุประสงค์ของการจำหน่ายไปในครั้งนี้เพื่อดำเนินตามกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทในการปรับพอร์ตการลงทุนโรงแรมที่มุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ทและเพิ่มสัดส่วนรายได้และกำไรที่เกิดจากฐานลูกค้าผู้ใช้บริการภายในประเทศเป็นหลัก และประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับในการจำหน่ายสินทรัพย์ในครั้งนี้ได้แก่ กระแสเงินสดรับเพื่อสนับสนุนให้สถานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมสำหรับการขยายและพัฒนาโครงการในอนาคตที่ตรงกับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานของบริษัทต่อไป

ทั้งนี้ในเบื้องต้น บริษัทคาดว่าธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นในบริษัทเอราวัณสมุย และการจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอเอสเอ็มจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยหากธุรกรรมการจำหน่ายหุ้นในบริษัทเอราวัณสมุย และการจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอเอสเอ็ม เสร็จสมบูรณ์แล้ว บริษัทจะรายงานความคืบหน้าให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ถือหุ้นทราบเพิ่มเติมเป็นรายกรณีไป

ขณะที่บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ต.ค.2564) ว่า มีมุมมอง Slightly positive ต่อดีลข้างต้น การขายโรงแรมทั้ง 2แห่งของ ERW โดยระยะสั้นจะช่วยลดผลขาดทุนจากการดำเนินงานราว 10 ล้านบาทต่อปี คาดบันทึกกำไรพิเศษในไตรมาส 4/2564 (บริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยได้)

ส่วนในระยะยาว ERW สามารถนำเงินสดที่ได้ ไปขยายโรงแรมในกลุ่ม Hop Inn สอดคล้องกับแผนระยะยาว (Strategic direction) ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนกำไรบนระดับ EBITDA จากกลุ่ม Hop Inn ให้สูงขึ้นจาก 16% ในปี 2562 เป็น >40% ในปี 2568 จากการเพิ่มจำนวนโรงแรม Hop Inn จาก 47 แห่ง ในไตรมาส 2/2564 เป็น 100แห่งในปี 2568

รวมทั้งขยายโรงแรมกลุ่ม Hop Inn จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย และลดการพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจุดเด่นของโรงแรม segment Budget hotel อย่าง Hop Inn คือเงินลงทุนต่ำ  (5-6แสนบาทต่อห้อง) คืนทุนเร็ว มี EBITDA margin สูง การแข่งขันด้านราคาต่ำกว่า Economy-Luxury ซึ่งมีราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ช่วง COVID ลดลงราว -30%-40% จากช่วง Pre-COVID ขณะที่ ARR ของ Hop Inn ลดลงเฉลี่ยราว -5%

อีกทั้งด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ Hop Inn เราเชื่อว่า ERW ยังสามารถเติบโตใน segment budget hotel ได้อีกมาก จากการการชิงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ประกอบการ local ที่ไม่มีแบรนด์เป็นที่รู้จัก

ขณะที่ผลกระทบจากการขายโรงแรมสมุย คือ หากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวจากการกลับมานักท่องเที่ยวต่างชาติเราคาดว่าการขายโรงแรมสมุย 2แห่ง มีผลกระทบจำกัดต่อ ERW เนื่องจากโรงแรมทั้ง 2แห่ง มีสัดส่วนรายได้ราว3% ของรายได้รวมในปี 19และมีสัดส่วนกำไรราว 2% ของกำไรสุทธิปี 2562 (Pre-COVID)

Back to top button