“ดีอีเอส” เตือน ผู้ประกันตนมาตรา 40 อย่าหลงเชื่อ “เพจปลอม” อ้างสอบสิทธิ์เยียวยา

“ดีอีเอส” เตือนระวัง “เพจเฟซบุ๊กปลอม” ให้ตรวจสอบสิทธิ์ตามโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 หวั่น ปชช.เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ สารถตรวจสอบสิทธิทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคมเท่านั้น


นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Www Sso go th ตรวจสอบสถานะสิทธิ์โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40″ เป็นเพจปลอม ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคมแต่อย่างใด จึงขอเตือนไปยังผู้ประกันตนว่า ขณะนี้พบพวกมิจฉาชีพได้จัดทำเพจ facebook ปลอม แอบอ้างชื่อสำนักงานประกันสังคม หลอกขอ ข้อมูลส่วนตัวผู้ประกันตน พร้อมให้โอนเงิน ค่าดำเนินการแล้วจะได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายแก่ผู้ที่หลงเชื่อ เสียทั้งทรัพย์สิน และเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ

ด้านสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ประกันตน โปรดระมัดระวังอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด ทั้งนี้หากผู้ประกันตนพบเห็นเพจปลอมหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่แอบอ้างชื่อสำนักงานประกันสังคม โปรดแจ้งมายังสำนักงานประกันสังคม หรือหากท่านเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการโอนเงินให้มิจฉาชีพดังกล่าว สามารถแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานประกันสังคม หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามที่สายด่วนสำนักงานประกันสังคม 1506 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ มาตรการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่ให้กลุ่มตกหล่นยื่นแบบคำขอทบทวนสิทธิ์โครงการเยียวยาฯ ได้สิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิ์ทางเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมเริ่มทยอยโอนเงินเยียวยา ให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 กลุ่มตกหล่น โดยได้เริ่มโอนเงินไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะโอนทุกวันพฤหัสบดี และผู้ประกันตนมาตรา 33 จะโอนทุกวันศุกร์ ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 นี้ และสำนักงานประกันสังคมขอย้ำกับผู้ประกันตนที่เข้าเงื่อนไขได้รับสิทธิ์ว่า เงินเยียวยาจะโอนผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น

Back to top button