เปิดโฉม 5 หุ้น “บลูชิพ” ทะยานแรง 11 เดือนวิ่งเกินเท่าตัว! JMART นำทีมโกยรีเทิร์น 150%

เปิดโฉม 5 หุ้น “บลูชิพ” JMART, HANA, KCE, RBF และ PSL ทะยานแรง 11 เดือน (30 ธ.ค.63-30 พ.ย.64) วิ่งเกินเท่าตัว! JMART นำทีมโกยรีเทิร์น 150%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจกลุ่มหุ้น SET100 ในช่วง 11 เดือนแรก 2564 มานำเสนอเพื่อให้เห็นทิศทางหุ้นรายใดปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางปัจจัยลบอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง 5 อันดับของกลุ่ม SET100 โดยเปรียบเทียบข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 – 30 พ.ย.2564 ประกอบด้วย JMART, HANA, KCE, RBF และ PSL

หลักทรัพย์ ราคาปิด (บาท) เปลี่ยนแปลง
30-พ.ย.-64 30-ธ.ค.-63 บาท %
JMART 50.00 20.00 30.00 150.00
HANA 93.50 39.75 53.75 135.22
KCE 92.00 41.50 50.50 121.69
RBF 19.60 9.30 10.30 110.75
PSL 15.70 7.60 8.10 106.58

อันดับที่ 1 บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ราคาหุ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 150% จากระดับ 20 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563 จนกระทั่งปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 50 บาท

โดย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส 4/2564 ของ JMART จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ระดับ 350-400 ล้านบาท เติบโต  30% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากทั้งกลุ่มการเงิน (JMT-SINGER) กำไรเติบโตได้ตามขนาดพอร์ตที่ขยายตัวทุกไตรมาส และการพลิกมีกำไรของ KBJ จากปริมาณการตั้งสำรองที่ลดลง ด้านมือถือจะฟื้นตัวแรงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากสาขาที่กลับมาเปิดได้ วางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 50.50 บาท

อันดับที่ 2 บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน)  หรือ HANA ราคาหุ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 135.22% จากระดับ 39.75 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563 จนกระทั่งปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 93.50 บาท

โดย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า HANA ผ่านพ้นประเด็นกดด้นไปแล้ว ทั้งน้ำท่วมและชิปขาดแคลน ขณะที่ไตรมาส 4/2564 และปี 2565 จะกลับมาเติบโตดีจากธุรกิจ IC&PCBA ตามอุปสงค์ที่แข็งแรงในกลุ่มยานยนต์, สื่อสาร และอุตสาหกรรม ผสาน S-Curve ใหม่สู่การเข้าไปในกลุ่มสินค้า Megatrend จึงเป็นโอกาสดีในการทยอยสะสม วางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 102 บาท

อันดับที่ 3 บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ราคาหุ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 121.69% จากระดับ 41.50 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563 จนกระทั่งปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 92 บาท

โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 97 บาท โดยภาพธุรกิจยังดีมากตามกลุ่มลูกค้ารถยนต์เติบโตทุกภูมิภาค มีความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่บริษัทเริ่มปรับราคากว่า 5% ตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 เพื่อชดเชยต้นทุนทองแดงสูงขึ้น โดยโมเมนตัมจะเข้าช่วงพีคในไตรมาส 4/2564 คาดกำไร 698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากทั้งรายได้เพิ่มตามกุล่มรถยนต์ที่เติบโตในทุกภูมิภาค และ Margin ปรับขึ้น ตามอัตราใช้ผลิตเพิ่มขึ้น โดยรวมสถานการณ์จะดีกว่าไตรมาส 3/2564 ที่ยังมีผลกระทบจากโควิด และคาดกำไรปี 2565 ยังเติบโต 35% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเพิ่มกำลังการผลิตใน 3 ปีนี้เพิ่มอีก 72%

อันดับที่ 4 บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ราคาหุ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 110.75% จากระดับ 9.30 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563 จนกระทั่งปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 19.60 บาท

โดยบล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น RBF และราคาเป้าหมายที่ 29 บาท อิง PER ปี 2565 เดิมที่ 40 เท่า มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการจัด group conference call เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2564 จาก 1) กำไรปี 2564 มี upside เพิ่มขึ้นอีกราว 4-5% จากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงแนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบไตรมาส 4/2564 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2564

รวมถึง 2) คลายกังวลมากขึ้นหลังจากที่บริษัทได้ทำการ cost down กับลูกค้าและปรับราคาสินค้าบางรายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดว่า gross profit margin ปี 2565 จะสามารถยืนอยู่ใกล้ระดับค่าเฉลี่ยบริษัทที่ 40% (ไม่รวมธุรกิจกัญชง) และ 3) ธุรกิจกัญชงมีความคืบหน้าตามแผน โดยต้นกัญชงจะเริ่มผลิตช่อดอกได้ในช่วงกลาง ธ.ค.2564 และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงต้น ม.ค.2565

ทั้งนี้คงกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 428 ล้านบาท และกำไรปี 2565 ที่ 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยกำไรไตรมาส 4/2564 มีทิศทางที่ดีขึ้นจากราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3/2564 นอกจากนี้กำไรปี 2565 ยังคงมี upside หากราคาขายสารสกัด CBD และ %Yield CBD ทำได้ดีกว่าคาด

อันดับที่ 5 บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ราคาหุ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 106.58% จากระดับ 7.60 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563 จนกระทั่งปิดตลาดวันที่ 30 พ.ย.2564 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 15.70 บาท

โดยบล.กสิกรไทย ประเมินราคาเป้าหมาย PSL ที่ 24.80 บาท คาดจะได้ sentiment บวกหลังรัฐบาลจนเริ่มออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าระวางเรือ

Back to top button