“เจเวนเจอร์ส” ไร้กังวล “ก.ล.ต.-แบงก์ชาติ” คุมคริปโตฯ ยัน! เดินหน้า JFin ตามแผน

“เจเวนเจอร์ส” ไร้กังวล หลัง “ก.ล.ต.-แบงก์ชาติ” ออกเกณฑ์ควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล ยัน! เดินหน้า JFin ตามแผน หลังมองไม่เข้าข่ายเกณฑ์ควบคุม เนื่องจากใช้ในวงจำกัด


สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ (25 ม.ค.2565) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการหารือร่วมกันถึงประโยชน์และความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล และเห็นความจำเป็นในการกำกับดูแลและควบคุมการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเบื้องต้นประกอบด้วย 6 มาตรการดังนี้

1.ไม่โฆษณาเชิญชวน หรือแสดงตนว่าพร้อมให้บริการแก่ร้านค้าเพื่อให้ร้านค้าสามารถรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วย Digital Asset ได้

2.ไม่จัดทำระบบ หรือเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกใด ๆ แก่ร้านค้า ในการรับชำระด้วย Digital Asset

3.ไม่ให้บริการเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (wallet) แก่ร้านค้า เพื่อรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วย Digital Asset

4.ในกรณีที่ผู้ซื้อขายทำการขาย Digital Asset เพื่อรับเป็นเงินบาท ผู้ประกอบการต้องโอนเงินบาทเข้าบัญชีผู้ซื้อขายเท่านั้น

5.ไม่ให้บริการที่มีลักษณะเป็นการโอน Digital Asset/เงิน จากบัญชีของผู้ซื้อขาย ไปยังบัญชีของรายอื่นหรือบุคคลอื่นใด เพื่อวัตถุประสงค์ของการรับชำระค่าสินค้าหรือบริการ

6.ไม่ดำเนินการในลักษณะอื่นใดนอกเหนือจาก 1-5 ที่เป็นการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้เกิดการนำ Digital Asset มาใช้เป็นการชำระค่าสินค้าและบริการ(Means of Payment)

 

โดยล่าสุด นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด (JVC) เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 26 ม.ค. 2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

1.ความคิดเห็นหลัง กลต.-กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ห้ามปรามการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางชำระสินค้าและบริการ

ขณะนี้เข้าใจว่ายังอยู่ระหว่างการเฮียริ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางแบงก์ชาติเคยออกมาว่าไม่สนับสนุนในการใช้เหรียญคริปโตฯในการชำระซื้อสินค้า ส่วนกรณีข้อห้าม 6 ข้อนั้นมองว่าเพื่อกำกับผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทาง กลต. ว่าไม่ควรเอาโปรดักส์ไปใช้ในการจับจ่ายใช้สอย

2.JFin Coin เข้าข่ายคุณลักษณะที่ทางก.ล.ต.ควบคุมหรือไม่

สำหรับข้อห้ามของทาง ก.ล.ต.ที่ออกมานั้นไม่ได้ห้ามในส่วนของเหรียญ ซึ่งเหรียญคริปโตฯ ในตอนนี้มีหลายประเภท โดย 95% เป็นเหรียญที่ใช้เทรดและมีราคาที่ไม่คงที่ และอีกประเภทคือเหรียญสเตเบิลคอยน์ ที่มีราคาค่อนข้างคงที่ ซึ่งในปัจจุบันนี้เหรียญที่โลกเราพยายามเอาออกมาจับจ่ายใช้สอยอยู่ในกลุ่มที่ราคาผันผวน ซึ่ง JFin เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในส่วนของ JFin เราไม่ได้พยายามจะเอามาทดแทนเป็นเงิน แต่ออกมาในรูปแบบเป็นยูทิลิตี้ โทเค่น หรือเหรียญที่เป็นสิทธิประโยชน์ อย่างการนำเหรียญ JFin มาลดราคาสินค้า หรือแลกโทรศัพท์ ซึ่งเป็นการใช้เหรียญ JFin ภายในระบบนิเวศน์ของเจมาร์ทเท่านั้น

3.ความกังวลใจของแบงก์ชาติในการนำเหรียญออกมาใช้จับจ่ายใช้สอย

แบงก์ชาติมีความกังวลใจเรื่องเสถียรภาพเงินบาท ถ้ามีความผันผวนเยอะมากจะกระทบกับเสถียรภาพของเงินบาท ขณะเดียวกันแบงก์ชาติก็เตรียมออกเหรียญของแบงก์ชาติเองที่ควบคุมโดยแบงก์ชาติ ซึ่งเป็นเหรียญประเภทสเตเบิลคอยน์ ที่มีความคงที่ ซึ่งจะทำให้วงการคริปโตฯออกมาโลดแล่นอีกครั้ง

4.หากเหรียญ JFin ต้องขยายเหรียญในระบบนิเวศน์มากขึ้น จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด

สำหรับ JFin นั้นจะมีการใช้งานได้หลายแบบ คือใช้ทดแทนเงินในการซื้อสินค้าในระบบนิเวศน์เจมาร์ท และการนำมาใช้ในกลไกการตลาดและทำให้ธุรกิจเติบโต ซึ่ง JFin เป็นเหรียญยูทิลิตี้ ที่มีเรียลอีโค่ซิสเต็ม ซึ่งเรามีกลุ่มเจมาร์ท และกลุ่ม BTS หรือกลุ่มพันธมิตรที่มีอยู่ ซึ่งเป็นการใช้เหรียญเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งร้านค้า และผู้ถือเหรียญ

“ผมสนับสนุนที่แบงก์ชาติและก.ล.ต.ลงมากำกับดูแล โดยอยากแนะนำว่าให้เริ่มต้นจากการคุมสโคปที่เป็นโคลสลูป หรือลิมิเตตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อคอยดูพฤติกรรมและค่อยๆ ออกเกณฑ์ควบคู่กันไป ผมเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีหลักเกณฑ์ออกมาเพิ่มขึ้น และคริปโตฯ ที่ไม่ใช่ยูทิลิตี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายธนวัฒน์ กล่าว

5.JFin ยังเดินหน้าตามแผนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง?

ยังเดินหน้าเหมือนเดิม

 

Back to top button