SUPER ขายหุ้น Solar NT กว่า 49% รับเงิน 5.5 พันลบ.

SUPER ขายหุ้น Solar NT ให้ “ACEV” สัดส่วน 49% มูลค่า 5.49 พันลบ. หวังสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในกลุ่มประเทศอาเซียน


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี่ กรุ๊ป (ฮ่องกง) จำกัด (SEG HK หรือ “ผู้ขาย”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน เพื่อจำหน่ายหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 ของ SOLAR NT HOLDINGS PTE. LTD. (Solar NT) ให้กับ AC ENERGY VIETNAM INVESTMENTS PTE. LTD. (ACEV หรือ “ผู้ซื้อ”) (รวมเรียก สัญญาซื้อขายหุ้น)

โดยมีมูลค่ารายการประมาณ 165 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 5,490 ล้านบาท (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 33.272 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 28 มกราคม 2565) โดย ACEV เป็นบริษัทลงทุนในเครือของ AC ENERGY CORPORATION ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนชั้นนำทางด้านธุรกิจพลังงานทดแทนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ และเป็นหนึ่งในกลุ่มธรกิจหลักของ AYALA GROUP ประเทศฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ Solar NT เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม โดย Solar NT อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท ภายหลังการปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ Solar NT จะมีบริษัทย่อยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ดำเนินธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม จำนวน 9 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 837 เมกะวัตต์ และได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้ง 9 โครงการการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อผนึกกำลังในการร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่ม ประเทศอาเซียน (ไม่รวมประเทศไทย) ในระยะยาว

โดย SEG HK ได้ดำเนินการเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ACEV รวมถึง เอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565แล้วนั้นการเข้าทำรายการดังกล่าวข้างต้นไม่ถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน แต่เป็นการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมเรียกว่า “ประกาศการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”)

ทั้งนี้จากการคำนวณขนาดของรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ในครั้งนี้มีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 20.9 จากการคำนวณตามเกณฑ์กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ได้ขนาดรายการสูงสุด โดยพิจารณาจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 จึงเข้าข่ายเป็นรายการการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ประเภทที่ 2 ตาม ประกาศการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจัดส่งหนังสือแจ้งสารสนเทศถึงผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีรายละเอียดตามเอกสารแนบ ทั้งนี้ในการดำเนินการหาผู้ร่วมทุน ในครั้งนี้บริษัทมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมี บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

Back to top button