NRF ตั้งบ.ย่อยสหรัฐ ลุยธุรกิจคริปโทฯ

NRF เตรียมจัดตั้งบริษัทย่อยในสหรัฐ ลุยธุรกิจคริปโทฯ คาดจดทะเบียนแล้วเสร็จ 30 เม.ย.65 พร้อมเพิ่มวัตถุประสงค์บริษัทร่วมทุน “อีโคลด์” ดำเนินธุรกิจการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ-ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล


บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปร์ดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเพิ่มเติมวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจของบริษัทร่วมทุน บริษัท อีโคลด์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) สำหรับขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร, ศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold chain warehouses), การนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (Cold storage) ตลอดจนทำ Platform (Online/AI) รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งครอบคลุมถึงการขุด ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน สินทรัพย์ดิจิทัล โดย NRF ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และบริษัท บี จีสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B ถือหุ้น 40%

โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เป็นกลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้าน Plantbased เพื่อรองรับการขยายตัวของการบริโภคอาหารและอุตสาหกรรมโปรตีนจากพืชที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเล็งเห็นถึงโอกาสและความสามารถในการเติบโตและต่อยอดจากภาคการผลิตของบริษัท และทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นและสามารถมาปรับใช้และนำความรู้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ Plant-based ในอนาคตต่อไป

นอกจากนี้บริษัท จะมีส่วนร่วมกับการเติบโตในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) โดยมุ่งเน้นใน Cryptocurrency กับพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในอนาคต

ทั้งนี้ยังมีการอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจดิจิทัล (Digital business) และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สร้าง ผลิต ส่งเสริมการตลาด ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสารสนเทศที่มีรูปแบบเป็นดิจิทัล (Digital content) และสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital assets) 2. ผลิต จัดจำหน่าย ส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบริษัทในเครือ 3. ประชาสัมพันธ์บริษัทและบริษัทในเครือ 4. มีส่วนร่วมในธุรกิจขุดเหมือง Cryptocurrency (Cryptocurrency Mining)

สำหรับการจัดตั้งบริษัทย่อยดังกล่าว คาดว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย.2565 โดยบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้น 100% แต่อาจมีการร่วมมือกับพันมิตรทางธุรกิจ (Strategic partners) ในอนาคตและส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป

Back to top button