สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.พ. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 ก.พ. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่มีความกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,738.06 จุด ลดลง 503.53 จุด หรือ -1.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,418.64 จุด ลดลง 85.44 จุด หรือ -1.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,791.15 จุด ลดลง 394.49 จุด หรือ -2.78%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.พ.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาดของสหรัฐ และความเห็นที่สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้เกิดความวิตกว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 469.57 จุด ลดลง 2.78 จุด หรือ -0.59%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,011.60 จุด ลดลง 89.95 จุด หรือ -1.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,425.12 จุด ลดลง 65.32 จุด หรือ -0.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,661.02 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.15%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.พ.) โดยปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อในสหรัฐ แต่ตลาดยังคงสามารถปรับตัวขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากอังกฤษเปิดเผยว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อยกว่าคาดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,661.02 จุด ลดลง 11.38 จุด หรือ -0.15% แต่ยังคงปรับตัวขึ้น 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (11 ก.พ.) หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐแสดงความเห็นว่ารัสเซียใกล้ที่จะบุกโจมตียูเครน ซึ่งอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันลดลง และราคาพุ่งขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 3.22 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 93.10 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.9% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.03 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 94.44 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (11 ก.พ.) และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่สหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจจะบุกโจมตียูเครนในไม่กี่วันข้างหน้านี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,842.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 15.3 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 23.369 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 23.8 ดอลลาร์ หรือ 2.28% ปิดที่ 1,018.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 71.70 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 2,193.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (11 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.56% แตะที่ 96.0860

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2717 ดอลลาร์แคนาดา, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.2740 เยน จากระดับ 115.9210 เยน และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9250 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9257 ฟรังก์สวิส

ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1340 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1452 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3574 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7170 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button