“กรมราชทัณฑ์” เผยพบคลัสเตอร์โควิดกว่า 700 ราย “ทัณฑสถานบําบัดพิเศษ” จ.ลำปาง

"กรมราชทัณฑ์" เผยได้ตรวจพบผู้ต้องขังติดโควิดภายในทัณฑสถานบําบัดพิเศษจังหวัดลำปางกว่า 700 ราย คาดน่าจะเกิดจากการปนเปื้อนมากับสิ่งของเข้ามา อย่างไรก็ดีทีมแพทย์ สั่งการให้ดำเนินการ “ตรวจนักโทษทั้งหมด 1,080 คน” เพื่อค้นหาผู้มีอาการเบื้องต้น และได้จ่าย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ให้กับผู้ติดเชื้อทุกราย


นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ข่าวโควิดระบาดในนักโทษกว่า 700 ราย ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปางนั้น โดยข่าวดังกล่าวทาง นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง ได้รายงานสถานการณ์การตรวจสอบพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากการปนเปื้อนมากับสิ่งของเข้ามาภายในทัณฑสถานฯ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ทางทัณฑสถานบําบัดพิเศษจังหวัดลำปาง พบผู้ต้องขังชายอายุ 32 ปี อาการ “มีไข้  ไอ มีน้ำมูก วัดอุณหภูมิร่างกายได้ 38.8 องศาเซลเชียส” จึงได้ดำเนินการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK)  ซึ่งผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นจึงได้ตรวจนักโทษที่ใกล้ชิดกับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ จนได้พบการแพร่ระบาดภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษแห่งนี้

โดยทางทีมแพทย์ และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง สั่งการให้ดำเนินการ “ตรวจนักโทษทั้งหมด 1,080 คน” เพื่อค้นหาผู้มีอาการเบื้องต้น โดยแพทย์ได้จ่าย “ยาฟาวิพิราเวียร์” ให้กับผู้ติดเชื้อทุกราย และทางทัณฑสถานได้รับการสนับสนุนเครื่องเอกซ์เรย์พระราชทานแบบเคลื่อนที่ (Portable X ray Digital) นำมาเอกซเรย์เพื่อคัดกรองผู้ต้องขังที่ป่วยทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งปัจจุบันไม่พบนักโทษที่ปอดมีปัญหาจากการติดเชื้อแล้ว

ทั้งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจำหวัดลำปาง สันนิษฐานว่าเชื้อโควิด-19 น่าจะมาจากการปนเปื้อนกับสิ่งของที่เข้ามาภายในทัณฑสถานฯ และคาดว่าน่าจะเป็น สายพันธุ์โอไมครอน ที่สามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี่อยู่ระหว่างตรวจยืนยันผล ซึ่งทัณฑสถานแห่งนี้เป็นเรือนจำแดนเดียว ทำให้การแพร่ระบาดจึงเป็นไปได้ง่าย

อย่างไรก็ดีปัจจุบัน ทางทัณฑสถาน ได้ดำเนินการตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 อย่างเคร่งครัด และดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ผู้ต้องขังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ วันที่ 27 มกราคม 2565 ทั้งประสานทางโรงพยาบาลฉีดวัคซีนภายหลังให้กับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อในครั้งนี้ พร้อมดูแลทุกคน เพื่อมิให้มีติดเชื้อของไวรัสโควิด-19 อีก

Back to top button