SMART กวาดรายได้ปี 64 โต 10% ควักเงิน 40 ลบ. แจกปันผล 0.04 บ./หุ้น

SMART รายงานกำไรปี 64 ลดลง 13% เหลือ 40 ลบ. จากปีก่อน 46 ลบ. แจกปันผล 0.04 บ. XD 28 เม.ย.นี้ เคาะจ่าย 20 พ.ค.65 พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าสร้างยอดขายเติบโต


บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART รายงานผลประกอบการงวดปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

ด้านนายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังอาคารเปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 2564 มีรายได้รวม 459.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 419.17  ล้านบาท จำนวน 40.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.62% และมีกำไรสุทธิ 39.87  ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 45.81 ล้านบาท จำนวน 5.94 ล้านบาท หรือลดลง 12.96 %

ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 103.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 95.93 ล้านบาท จำนวน 7.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.49%

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/64 มีรายได้รวม 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 108.73 ล้านบาท จำนวน 12.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.28% และมีกำไรสุทธิ 9.41 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.80 ล้านบาท จำนวน 6.39 ล้านบาท หรือลดลง 40.44%

ทั้งนี้รายได้และกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณความต้องการใช้อิฐมวลเบาของโครงการก่อสร้างภาครัฐ อาทิ โครงการรถไฟฟ้า โรงพยาบาล อาคารสำนักงานราชการ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ ประชาชนให้ความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ-แนวสูงเพิ่ม การกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคในการจับจ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เร่งลงทุนก่อสร้างเพื่อเปิดโครงการใหม่ ผู้ประกอบการโรงแรม-ที่พัก ร้านอาหาร เร่งปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อรองรับตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ

โดยในส่วนของกำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องมาจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 8.39 ล้านบาท

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2564 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็น 110.02% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นจำนวนเงินปันผล 41.662 ล้านบาท ทั้งนี้ รอมติการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนเมษายนอีกครั้ง

“บริษัทเร่งเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ชูจุดเด่นช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งเน้นการทำตลาด (Online to Offline ) สร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียช่วยกระตุ้นการสร้างยอดขาย พร้อมทั้ง เดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการเมกะโปรเจคต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทมีการเตรียมแผนจัดการบริหารความเสี่ยงและปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดรับกับสถานการณ์อยู่เสมอ เพื่อให้บริษัทสามารถปรับตัวรับมือต่อสถานการณ์นั้น ๆ ได้ทัน” นายรังสี กล่าว

Back to top button