TM เปิดเกมรุกปี 65 ปั้นแบรนด์ “TM Herb-THE PARENTS” มั่นใจดันรายได้ 750 ลบ.

TM เปิดเกมรุกปี 65 ปั้นแบรนด์ “TM Herb-THE PARENTS” เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ-ผู้สูงอายุ สอดรับการก้าวสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” เตรียมเปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เฟสแรก ไตรมาส 3/65 มั่นใจดันรายได้ 750 ลบ.


นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในปี2565 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่โรงพยาบาลสามารถกลับมาเปิดให้บริการห้องผ่าตัดปกติ ส่งผลให้ดีมานด์กลุ่มอุปกรณ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ที่ใช้ในห้องผ่าตัด

โดยเป็นอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด อาทิ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดูดและเก็บสารคัดหลั่งออกจากบริเวณผ่าตัด, สายดูดเลือดและสารคัดหลั่ง, ภาชนะรองรับเลือดและสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย, อุปกรณ์รองรับของเหลวจากแผลและท่อระบายของเหลวออกจากแผลหลังการผ่าตัด, ผ้าคลุมผ่าตัดสำหรับหัตถการ, เสื้อคลุมผ่าตัด, ชุดสิ่งทอสำเร็จรูปสำหรับใช้ในห้องผ่าตัดสำหรับดูดซับของเหลวและสารคัดหลั่ง, ถุงมือยาง, เครื่องกำจัดขนก่อนการผ่าตัด, สายต่อเพื่อระบายเลือดและสารคัดหลั่งโดยระบบสุญญากาศ และ อุปกรณ์สำหรับรองรับเลือดและสารคัดหลั่งโดยใช้ระบบสุญญากาศ กลับมาฟื้นตัวปกติอีกครั้ง ซึ่งสอดรับกับจำนวนเคสผู้ป่วย และผู้สูงอายุที่ทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ TM ได้รับอานิสงส์เชิงบวกต่อความต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ประกอบกับกรณีที่ภาครัฐบาลมีความต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ยิ่งเป็นการตอกย้ำโอกาสในการสร้างการเติบโตภายในอุตสาหกรรมฯมากยิ่งขึ้น

ขณะที่อุตสาหกรรมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ-อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19  ยังคงมีแนวโน้มเติบโต  แบบก้าวกระโดด เป็นผลมาจากมาตรการป้องกันรักษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง อาทิ ถุงมือยางทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย ชุดน้ำยาตรวจวินิจฉัยโรค สเปรย์ เจล แอลกอฮอล์ ชุดPPE  แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสแบคทีเรีย COVID-19 ซึ่งจากความต้องการใช้ดังกล่าว ส่งสัญญาณบวกต่อ TM ในฐานะผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์-อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด รวมถึงอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากบริษัทฯเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กับกลุ่มโรงพยาบาลรัฐ -เอกชน และ คลินิก ที่มีผลิตภัณฑ์ครบวงจร

โดยจากสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้เทรนด์การรักสุขภาพมีความโดดเด่น จนทำให้อุตสาหกรรมพืชสมุนไพรไทยกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตา เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเริ่มหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากพืชสมุนไพรไทยเพื่อดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับการก้าวสู่ “สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Aged Society)ในปีนี้ เพราะกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพ วิตามินเสริมอาหารที่มาจากสารสกัดสมุนไพรไทย

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ TM เร่งขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อต่อยอดและเพิ่มช่องทางความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มีครบวงจรมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั่นคือการ  สร้างแบรนด์ ภายใต้ “TM Herb” เพื่อมุ่งสู่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ อาทิ เครื่องทำน้ำด่าง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ในรูปแบบแคปซูล อาทิ กระท่อม กระชาย กระเทียม น้ำมันกัญชง ฟ้าทะลายโจร ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ประเภท Probiotic  จากประเทศเกาหลี  รวมถึงผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้สูงอายุ อาทิ ผ้าเช็ดตัวสำหรับผู้สูงอายุ  ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มทยอยทำการตลาดในเชิงพาณิชย์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ “TM CARE SHOP”   ได้ภายในช่วงไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป

สำหรับปีนี้บริษัทฯให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากมองว่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย TM จึงขยายช่องทางการซื้อเพิ่มเติมใน “Lazada”เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกของกลุ่มผู้บริโภค ขณะเดียวกัน บริษัทฯมีแผนในการเพิ่มทีมขาย เพื่อจำหน่ายสินค้าเข้ายังร้านขายยาเวชภัณฑ์ โดยบุกตลาดในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล เป็นหลัก ทั้งนี้จากความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่าย ส่งผลให้ TM ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปี2565 เพิ่มขึ้น 5 -10 % หรือประมาณ 700-750 ล้านบาท โดยจะมาจากยอดขายแพลตฟอร์มออนไลน์ ประมาณ10 -15 ล้านบาท

นอกจากนั้นการก้าวสู่  “สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” ส่งผลให้ TM เพิ่มไลน์ธุรกิจด้วยการสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร (กทม.)ภายใต้โครงการ THE PARENTS ซึ่งเป็นการดำเนินการผ่าน บริษัทย่อยคือ บริษัท ทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด (TMNC) โดย TM ถือหุ้นสัดส่วน 80% และ 20 % เป็นกลุ่มแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเบื้องต้นเตรียมเปิดให้บริการเฟสแรก ในส่วนของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ภายในไตรมาส 3/2565  ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบภายในปี 2566

ดังนั้นหาก THE PARENTS แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ทั้งอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital จะผลักดันให้ THE PARENTS เป็นศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาคในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรทุกมิติ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพและสร้างฐานความแข็งแกร่ง ทางธุรกิจให้ TM เติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป TM จะรับรู้รายได้เพิ่มจากธุรกิจดังกล่าว เข้ามาเฉลี่ย 100 -150 ล้านต่อปี ตามสัดส่วนที่ TM ถือครองหุ้น

Back to top button