CPN ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.6 หมื่นลบ. เตรียมเปิด “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” ย่านราชพฤกษ์ Q4/65

นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2566 นี้เตรียมสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมย่านราชพฤกษ์กับโปรเจ็คต์ใหม่ “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” (Central WestVille) มูลค่ารวมกว่า 6,200 ล้านบาท บนที่ดิน 40 ไร่ พื้นที่อาคารรวม 93,000 ตารางเมตร ปักหมุดย่านใหม่ด้วยการ Reinventing the Neighborhood ยกระดับฝั่งตะวันตกของกรุงเทพให้เป็นย่าน Upper-Class Lifestyle

โดยเซ็นทรัล เวสต์วิลล์นั้นรายล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนที่มีโครงการกว่า 115,000 ยูนิต จำนวนประชากร 415,000 คนที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงย่าน CBD และกำลังซื้อสูงเทียบเท่าย่านอีสต์วิลล์ ตัวโครงการจะผสมผสานพื้นที่สีเขียวเป็น Green Park ของเมือง มีพื้นที่กิจกรรมเอาท์ดอร์สำหรับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง

ขณะที่ในส่วนของ เซ็นทรัล จันทบุรี โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 3.2 พันล้านบาท จะเปิดในวันที่ 26 พ.ค.2565 นี้ รองรับความเจริญต่อเนื่องจากเขตเศรษฐกิจ EEC ในอนาคต  โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายไลฟ์สไตล์ดีมีกำลังซื้อ ครอบคลุมประชากร 1.8 ล้านคนในจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง สร้างพื้นที่การใช้ชีวิต New Urban Lifestyle Destination ของเมือง อาทิ พื้นที่สีเขียว 4 ไร่ที่เป็นปอดของเมือง, Family & Pet Friendly Space และ Sport Destination ครบวงจร 4,000 ตร.ม. เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาโครงการระดับโลก และโครงการใหม่เพิ่มเติมอีกปีละ 2-3 โครงการ รวมถึงโครงการพลิกโฉม Major Renovation กว่า 10 โครงการ พร้อมปรับโฉมโครงการในสาขาต่างๆ ทุกสาขาอย่างต่อเนื่อง

โดยภายใน 2 ปีนี้ บริษัทวางงบประมาณไว้มากกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ Imagining the future of retail ซึ่งผสานจุดแข็งของใน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1) Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ผ่านการขยายโครงการ (2) Customer-Centric สร้างคอมมูนิตี้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า และ 3) Partner Champions การเป็น Business Partner ให้คู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับงบลงทุนปีนี้ 2.07 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น จำนวน 9.7 พันล้านบาทลงทุนโครงการใหม่ โดยบางโครงการเป็นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ โครงการดุสิตเซ็นทรัล พาร์ค จำนวน 7.5 พันล้านบาท ขยายในธุรกิจโรงแรม ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงาน และ อีก 3.5 พันล้านบาทใช้ปรับปรุงสาขาเดิม อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลเวิล์ด โซน I เซ็นทรัลพัทยา

ขณะที่โครงการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทได้ศึกษาขยายตลาดในย่านอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม จะเป็นการขยายศูนย์การค้าแห่งใหม่ โดยปัจจุบัน CPN มีสาขาที่มาเลเซีย

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนที่ 1.18 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปี (ปี 2565-2569) โดยจะเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 50 สาขา หรือเพิ่มขึ้น 16 โครงการใหม่ที่มีทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงสาขาเดิมกว่า 10 โครงการ และหลังจากเข้าเทกโอเวอร์ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF จะเพิ่มคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่เล็กที่ไม่สามารถเปิดศูนย์การค้าได้ รวมถึงโครงการสยามสแควร์ ที่กำลังร่วมพัฒนากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สำหรับรายได้ปี 2565 ตั้งเป้าจะเติบโตมาที่ 3.6 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับ 90% ของรายได้ในปี 62 และศูนย์การค้าแห่งใหม่คือ เซ็นทรัล จันทบุรี ที่เปิดในพ.ค.ปีนี้ จะทำให้มีจำนวนศูนย์การค้าทั่วประเทศ 36 แห่ง โดยปัจจุบันยอดทราฟฟิก ทุกศูนย์เฉลี่ยที่ 75% แล้ว และในครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามามากขึ้น รวมทั้งอัตราการเช่าพื้นที่มาที่ 90%

“ราคาหุ้น CPN ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ตลาด นักลงทุนที่มีความมั่นใจบริษัท ที่บริหารงานและมีแผนงานทำงานชัดเจน ตามที่เราประกาศการลงทุนออกไป นักลงทุนมองเห็น CPN มีศักยภาพ” น.ส.วัลยา กล่าว

นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน CPN กล่าวว่า ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดโครงการ “เซ็นทรัล ศรีราชา” ที่เป็นต้นแบบ Eco-Friendly Mall ในภาคตะวันออก และพื้นที่รีเทลแบบ seamless space และ “เซ็นทรัล อยุธยา” ที่เป็นสปอต์ไลท์ระดับโลก เติมเต็มการท่องเที่ยวอยุธยา โดยทั้งสองโครงการใหม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีทราฟฟิกในช่วงเปิดตัวถึง 50,000 คนต่อวัน

นอกจากนี้  “เซ็นทรัล วิลเลจ” ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย เปิดตัวเฟสสองมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 15% (ตัวเลขเฉลี่ยในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า) “เซ็นทรัล พระราม 2” พลิกโฉมเป็น The Regional Mall of South Bangkok เจาะกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ Wealth Segment และมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนรีโนเวท รวมทั้ง เซ็นทรัลเวิล์ด เตรียมเปิดโซนใหม่ คือ Zone I รองรับร้านค้า lifestyle brand ทั้ง local & international อีกมากมาย และ โซนฮักไทย ชูจุดขายการตกแต่งในวิถีไทยร่วมสมัย สินค้าและอาหารไทยขึ้นชื่อ เพื่อดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทย ชาวต่างชาติในไทย และพร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่เพื่อชุมชนอย่าง ตลาดจริงใจที่จำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรและชุมชนต่างๆ ทั่วไทย