“อนุทิน” ยอมรับ ยอด “โควิด” หลังสงกรานต์พุ่ง ย้ำงดเล่นน้ำปะแป้ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมย้ำประชาชนงดการเล่นน้ำปะแป้ง เพื่อลดการสัมผัส ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรี สั่งข้าราชการ Work From Home ไม่น้อยกว่า 70 % หลังสงกรานต์


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงถึงการห้ามเล่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ หลังรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆออกมาจำนวนมาก และธรรมชาติของการติดเชื้อโควิด-19 คือการสัมผัส การรวมกลุ่มใกล้ชิด และการใช้ภาชนะร่วมกัน ทั้งนี้ การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง และใช้ขันน้ำร่วมกัน แต่จะขอให้ประชาชนใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี ซึ่งสามารถรดน้ำโดยไม่ต้องสาดก็ได้

ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กต่ำกว่า 5 ปี จึงจะเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุก คือไม่ต้องรอให้มาหาที่สถานบริการพยาบาล และขณะนี้ฉีดวัคซีนไปเยอะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งขณะนี้พบว่าติดเชื้อจำนวนมาก  จึงอยากฝากให้พ่อแม่และผู้ปกครองงดพาเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง

ทั้งนี้เมื่อถามถึงการประเมินยอดติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์จะพุ่งขึ้นเหมือนปี 2564 นายอนุทิน ยอมรับว่าการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ทางกระทรวงสาธารณสุข ยังเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว จะช่วยป้องกันการเกิดอาการรุนแรงหากมีการติดเชื้อ ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการ บางคนสามารถรับประทานยารักษาตามอาการและหายโรคเองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศแนวทางการปฏิบัติงานภายในที่พัก หรือ Work From Home และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้บุคลากรสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานภายในที่พักไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ตั้งแต่วันที่ 1-15 เมษายน 2565 และไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ตั้งแต่วันที่ 16-30 เมษายน 2565 โดยการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องไม่กระทบภารกิจการให้บริการประชาชน

สำหรับผู้ที่เข้าปฏิบัติงานที่สำนักงานฯ ต้องตรวจ ATK ทุกวันจันทร์ และพฤหัสบดีของสัปดาห์ ควรใช้การประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตามความเหมาะสม กรณีมีเหตุการเสี่ยงหรือฉุกเฉินเกี่ยวกับสุขภาพขอให้รายงานผู้บังคับบัญชาทันที

Back to top button