“โนมูระ” จัดทัพ 14 หุ้นงบ Q1 สดใส ชู BBIK เด่น กำไรปีนี้เฉียด 100 ลบ. เคาะเป้า 74 บ.

"บล.โนมูระ" จัดทัพ 14 หุ้นเด่น จับตางบ Q1 โตแกร่ง รวมถึงกลุ่มที่อาจจะได้ประโยชน์จากรัฐฯมีแนวโน้มผ่อนคลายเปิดประเทศตามกำหนด 1 พ.ค.65 พร้อมชู BBIK เด่น กำไรปีนี้เฉียด 100 ลบ. เคาะเป้า 74 บ.


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินภาพรวมตลาดระยะนี้ยังคาดมีน้ำหนักที่การเก็งกำไรหุ้นที่มีแนวโน้มรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/65 ออกมาดีต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มที่อาจจะได้ประโยชน์จากโอกาสที่รัฐฯ มีแนวโน้มผ่อนคลายเปิดประเทศตามกำหนด 1 พ.ค.65

โดยกลุ่มที่มีแนวโน้มรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/65 ดี อาทิ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และพลังงานต้นน้ำ (ระยะสั้นเน้นตั้งรับเมื่ออ่อนตัว) ที่เหลือเน้นที่กลุ่มกระทบเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจำกัด อาทิ หุ้น Defensive กลุ่ม โรงพยาบาลที่แนวโน้มกำไรดีกว่าคาดยังดูน่าสนใจ อาทิ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS และ  บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH

สำหรับประกันที่ได้ประโยชน์ Bond Yield ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH, บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA รวมถึงเก็งกำไร บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL

ส่วนกลุ่มที่จำหน่ายสินค้าจำเป็น อาทิ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO และอีกกลุ่มที่น่าสนใจในช่วงหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศปรับฐานแรงในปัจจุบัน คือหุ้น Tech ที่เติบโตสูงและฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะนำ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART, บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8, บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK และ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET

สำหรับ BBIK แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 74 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเป็นการลงทุนต่อยอดและขยายบริการของบริษัทให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น (หลังจากที่เดือน ก.พ.22 มีการลงทุนในบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้าน SAP ไปแล้ว) และเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทซึ่ง ต้องการเป็น one stop service ในการทำ Digital transformation ของลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว

โดยที่ผ่านมา IT-CAT มีทั้งงาน 1) Project based ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนเว็บไซต์และโทรศัพท์มือถือ และ งานด้าน HR Solution โดยส่วนมากเป็นลูกค้าภาครัฐ 2) Recurring จากระบบบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล (HumanOS) ซึ่งส่วนมาก เป็นบริษัทขนาดเล็ก-กลาง คาดว่าด้วยฐานลูกค้าจำนวนมากของบลูบิค และความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์

รวมถึงการทำการตลาด จะช่วยให้ IT-CAT มี โอกาสได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และมากขึ้น และด้วยลักษณะธุรกิจที่มี Operating leverage สูง (Fix cost จากการพัฒนาซอฟท์แวร์และระบบ) หากฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น คาดว่ากำไรของ IT-CAT จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด อิงข้อมูลเบื้องต้นจากทางบริษัท

ส่วนราคาที่ซื้อราว 13-14 ล้านบาท และกำไรปี 2564 ที่ราว 3-4 ล้านบาท (กำไรปี 2563 ที่ 3.8 ล้านบาท) เทียบเท่ากับราคาที่ซื้อคิดเป็น Trailing PER เพียง 10 เท่า เท่านั้น ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาส 1/65 ในกรอบ 17-20 ล้านบาท โตสูงจากปีก่อน แต่ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน และประเมินกำไรปี 2565 เชิง conservative ที่ 97 ล้านบาท โต 46% จากปีก่อน

โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีแบ็กล็อกอยู่ที่ 385 ล้านบาท (รับรู้ปีนี้ราว 245 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของประมาณการรายได้ปี 2565 ของเรา และคาดว่าจะมีแบ็กล็อกมาเติมอีกมากในไตรมาส 1-2/65 เบื้องต้นคาดเร็วๆ นี้มีโอกาสได้โครงการใหญ่เพิ่มเติมอีก 1-2 โครงการ นอกเหนือจากงานใหญ่ของกลุ่มกระทิงแดงที่กำลังทำ

Back to top button