MAKRO จับมือ “พาณิชย์-เกษตร” เปิดพื้นที่ชาวสวนขาย “ทุเรียน” ทั่วปท. 135 สาขา

MAKRO จับมือ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตร เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรทุเรียนขายตรง 135 สาขาทั่วประเทศของแม็คโคร โดยคาดปีนี้รับซื้อทุเรียนประมาณ 1.5 พันล้านกก.


นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า ปีนี้ผลไม้ฤดูกาลมีแนวโน้มออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่าปีก่อน โดยเฉพาะ ทุเรียน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากการส่งออกที่ลดลง ทำให้ชาวสวนต้องเร่งระบายผลผลิต

ทั้งนี้ MAKRO จึงร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ วางแนวทางเชิงรุกช่วยเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้เข้ามาขายตรงถึงมือผู้บริโภคที่สาขาของแม็คโคร 135 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจัดเทศกาลผลไม้ตามฤดูกาล รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาผลไม้ล้นตลาดยังเป็นประเด็นสำคัญที่เกษตรกรไทยต้องเผชิญทุกปี โดยเฉพาะทุเรียน ที่ปีนี้มีผลผลิตออกมากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ชาวสวนระบายผลผลิตไม่ทัน และอาจส่งผลให้ราคาตก บริษัทจึงได้วางแผนการรับซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยปีนี้คาดว่าจะรับซื้อทุเรียนประมาณ 1,500,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 5 เท่าตัว เป็นผลผลิตจากเกษตรกรกว่า 70 ราย ใน 11 จังหวัด

โดยแม็คโครได้ส่งทีมจัดซื้อลงพื้นที่สวนทุเรียน เพื่อคัดเลือกทุเรียน สดใหม่ ให้ชาวสวนมาขายตรงกับลูกค้า โดยมีพื้นที่ในสาขาเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง ชาวสวนกับผู้บริโภค เพื่อเป็นการระบายผลผลิตและสร้างบรรยากาศให้เกิดความคึกคัก ด้วยการจัดเทศกาลผลไม้ตามฤดูกาล กระตุ้นการบริโภคอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทุเรียน 5 สายพันธุ์หลักที่แม็คโครนำมาจำหน่าย ประกอบด้วย หมอนทอง, ชะนี, พวงมณี, กระดุม, และก้านยาว จากแหล่งผลิตคุณภาพในจังหวัดจันทบุรี, ระยอง, ตราด, นครศรีธรรมราช, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, ปัตตานี, นครราชสีมา, ศรีสะเกษ, ชัยภูมิ, และอุตรดิตถ์ ซึ่งทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ได้รับความนิยมสูงสุด มีสัดส่วนถึง 95% ของยอดขายทุเรียนทั้งหมด 

“ทั้งนี้ นอกจากทุเรียนแล้ว บริษัทยังวางแผนรับซื้อผลไม้ฤดูกาลที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ลำไย ลองกอง มังคุด เงาะ โดยตั้งเป้าการรับซื้อผลไม้ฤดูกาลกว่า 8,000,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบเท่าตัว เพื่อช่วยชาวสวนระบายผลผลิตได้ทันท่วงที ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง และผู้บริโภคได้รับประทานผลไม้ไทยคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยา” นางศิริพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งมั่นดำเนินพันธกิจในการเคียงข้างเกษตรกรไทย พร้อมตอกย้ำการเป็นผู้นำอาหารสดมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสให้กับเกษตรกร และผู้ผลิตรายย่อย  สำหรับการเปิดพื้นที่ให้ชาวสวนนำทุเรียนมาจำหน่ายโดยตรงในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ในการผนึกกำลังของธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มีนโยบายในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

Back to top button