หอการค้าฯ หนุนรัฐคลอด “คนละครึ่ง” เฟส 5

หอการค้าฯ หนุนรัฐคลอดมาตรการ “คนละครึ่ง” เฟส 5 เสนอพิจารณาวงเงิน 1,000 – 1,500 บาท/คน เพื่อช่วยการหมุนเวียนของเม็ดเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจ


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันนี้ เห็นชอบให้ขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 เพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยจะขยายเวลาถึงเดือนกันยายนนี้

โดยทางหอการค้าฯ ได้เสนอที่ประชุมให้พิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 โดยทราบความจำเป็นของงบประมาณภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แม้จะมีการเปิดเกือบเต็มรูปแบบไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาทันที กำลังซื้อของประชาชนและสภาพคล่องของภาคธุรกิจยังคงมีปัญหาอยู่ ตลอดจนยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูง และราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้หอการค้าฯ เสนอให้พิจารณาวงเงิน 1,000-1,500 บาทต่อคน (30 ล้านคน) ก็จะช่วยให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะใช้งบประมาณราว 30,000-45,000 ล้านบาท แต่จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและมีเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 60,000-90,000 ล้านบาท เมื่อคำนวนแล้วจะทำให้จีดีพีมีตัวเลขดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65% ซึ่งนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมรับข้อเสนอดังกล่าวของหอการค้าฯ และแจ้งว่าปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดงบประมาณเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มาตรการดังกล่าวอาจได้รับการตอบรับในเร็ววันนี้

ทั้งนี้ประชุมมีข้อสังเกตในประเด็นที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมีความกังวลเรื่องการถูกเก็บภาษีย้อนหลัง โดยหอการค้าไทยเห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้รับทราบว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่ดำเนินโครงการคนละครึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน และส่งผ่านกำลังซื้อไปสู่ผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่ม ซึ่งหากรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการจะไม่มีภาระภาษี

สำหรับร้านค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการอาจไม่เข้าใจประเด็นนี้ และกลัวที่จะต้องเสียภาษีหากร่วมเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเน้นทำความเข้าใจส่วนนี้ให้ชัดเจน เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยประชาชนและผู้ประกอบการพร้อมๆ กัน เพื่อเพิ่มยอดขายและกำลังซื้อของประชาชนทั่วไปด้วย

Back to top button