ADD ส่งซิก Q2 สดใส! เริ่มบุ๊กส่วนแบ่งกำไร “เซเว่น คอนเนคฯ” ลุยพัฒนาคอนเทนต์-โซลูชั่น

ADD ส่งซิกไตรมาส 2/65 เริ่มบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด (7C) หลังเข้าถือหุ้นสัดส่วน 46.73% พร้อมลุยพัฒนาคอนเทนต์-โซลูชั่นครบทุกมิติ ตอกย้ำภาพรวมธุรกิจปีนี้เติบโตต่อเนื่อง


นายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2565 ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าการให้บริการดิจิทัล โดยเฉพาะด้าน E-Content ในรูปแบบต่างๆ ทั้งสาระ และความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายใต้การนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัล (Digital Transformation) ไปใช้กับองค์กรของกลุ่มพันธมิตร ที่ให้ความสนใจร่วมทุนกับบริษัท เพื่อเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวมากขึ้น

โดยจากความสำเร็จในการเข้าถือหุ้น 46.73% ใน บริษัท เซเว่น คอนเนค แอดไวซอรี่ จำกัด (7C) ผู้ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านบัญชี การวางระบบควบคุมภายใน, การปรับโครงสร้างกิจการ, การควบรวมกิจการ, และที่ปรึกษาในการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ มีกลุ่มลูกค้ามากกว่า 30 บริษัท และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกหลายบริษัท ซึ่ง 7C มีบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท มาย โค๊ดดิ้ง โรแมนซ์ จำกัด หรือ MCR และ บริษัท ไท-ไท วิศวกร จำกัด หรือ TTE ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ส่งผลให้ ADD สามารถรับรู้กำไรได้ทันทีตั้งแต่เข้าไปลงทุน โดยบริษัทจะเริ่มทยอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่ม 7C ตามสัดส่วนการถือหุ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ดังนั้นจากความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีแผนศึกษาเพื่อเข้าลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกับ Core Business ต่อยอดสู่การพัฒนาคอนเทนต์และโซลูชั่นให้ครบทุกมิติ

สำหรับบริษัทเตรียมศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม ภายหลังที่ผู้ถือหุ้นได้มีมติแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้จากการการเสนอขายหุ้น IPO ในปี 2564 จำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษา 3-6 เดือน ซึ่งบริษัทมองว่าแผนการศึกษาดังกล่าวจะส่งผลดีต่อธุรกิจในอนาคต

ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 648.58 ล้านบาท โดยแทบไม่มีหนี้สินที่มีต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติจ่ายปันผล จากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 25 พ.ค. 2565 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 24 พ.ค. 2565 เพื่อจ่ายปันผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2565

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการรวม 110.47 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.01% และมีกำไรสุทธิ 21.23 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20.08% ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1.) ธุรกิจการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ มีรายได้ 91.38 ล้านบาท ลดลง 21.62% เมื่อเทียบกับปี 2564 เนื่องจากภาวะสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในวงกว้าง ขณะที่กำไรขั้นต้น อยู่ที่ 23.48 ล้านบาท หรือลดลง 25.76% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 25.70% ลดลงจากปี 2564 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 27.13% เนื่องจากต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ให้แก่คู่ค้าด้านการตลาดในช่องทางออนไลน์โดยเฉลี่ยมีอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้น

2.) ธุรกิจการให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีรายได้จำนวน 18.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่กำไรขั้นต้น อยู่ที่ 10.42 ล้านบาท ลดลง 10.54% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 55.43% ลดลงจากปี 2564 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 64.44% เนื่องจากต้นทุนค่าบริการคลาวด์เซิร์ฟเวอร์และต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับโครงการใหม่ในอนาคต

3.) ธุรกิจการให้บริการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ต มีรายได้ 0.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 217.39% เนื่องจากลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีการใช้จ่ายด้านสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีขาดทุนขั้นต้น จำนวน 0.42 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่

Back to top button