จังหวะช้อนกลุ่ม “เจมาร์ท” โบรกยันพื้นฐานแจ่ม Q2 กำไรนิวไฮ!

“บล.โนมูระ พัฒนสิน” ชี้จังหวะเก็บหุ้นกลุ่ม “เจมาร์ท” หลังราคาปรับฐานแรงเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ยันพื้นฐานยังเติบโตแข็งแกร่ง มองภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น-เพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อกระทบจำกัด ประเมินไตรมาส 2/65 กำไรนิวไฮ!


บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ก.ค.) ว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่ม J Group ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART,  บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)  หรือ JMT และริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER มีการปรับฐานแรงเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ซึ่ง JMART ปรับลง 30% ส่วน JMT ปรับลง 21% และ SINGER ปรับลง 36% ขณะที่ SET ปรับลง 9%

ทั้งนี้หุ้นทั้งกลุ่มได้รับ sentiment ลบต่อกลุ่ม Finance จากสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงประเด็นที่ สคบ. หารือเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ โดยในเชิงพื้นฐานยังมองว่าหุ้นทั้งกลุ่มได้รับผลผลกระทบจำกัด

โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JMART ประเมินราคาเป้าหมาย 63 บาท โดยได้รับ Sentiment ตามบริษัทลูกเช่นกัน โดยหากมาดูที่ธุรกิจ J-mobile นั้นยังสร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 22% เมื่อเทียบจากปีก่อนในไตรมาส 1/65 เดินหน้าเพิ่ม Line-up สินค้าและวางเป้าขยายกว่า 100 สาขา จากปัจจุบันราว 290 สาขา บวกกับการใช้ synergy ร่วม SINGER ทาหน้าร้านรวมประหยัดต้นทุน และการขายสินค้าผ่อน (SINGER+KBJ)

นอกจากนี้การขยาย Partner คาดว่าจะมีประกาศอีกหลายแห่ง Partner ปัจจุบันอย่าง JayDee JGS เริ่มดำเนินธุรกิจแล้ว คาดจะเริ่มมีนัยฯ ในปี 2566 ทั้งนี้สัดส่วนกาไรหลักยังมาจากบริษัทลูก JMT และ SINGER (คาด 80% ในปี 2565) ด้านไตรมาส 2/65 คาดโตต่อ New high ที่ 362 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 11% เมื่อทเทียบจากไตรมาสก่อน ตามบริษัทลูกแม้ยอดขาย mobile + gadget คาดทรงตัวตามฤดูกาล

รวมทั้งแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JMT ประเมินราคาเป้าหมาย 105 บาท โดยราคาหุ้นปรับฐาน แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ด้านรายได้ JMT ยังมี Upside ที่เปิดกว้างหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นของ NPL ในระบบภายหลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ภาคบังคับ

โดยฝ่ายวิจัย CNS คาดว่า NPL ratio จะปรับขึ้นราว 7 bps q-q มาอยุ่ที่ 4.07% ในไตรมาส 2/65 จาก 4% ในไตรมาส 1/65 และเมื่อเปรียบเทียบหนี้ครัวเรือนต่อ GDP แล้ว ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันไตรมาส 1/65 แตะ 90% แสดงถึงปริมาณหนี้ที่คาดทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากโอกาสการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน JV AMC กับธนาคารรายอื่นๆ แล้ว มองว่าเป้าการจัดซื้อทรัพย์เดิมของ JMT ที่ 1-1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 65-66 อยู่ในระดับที่มีความเป็นไปได้สูงและมีโอกาสที่จะทาได้ดีกว่าเป้าหมาย

ด้านต้นทุน ตลาดกังวลความกดดันจากแนวโน้ม Bond yield ขาขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมองได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจาก ในปี 64 บริษัทได้มีการระดมทุนจากกลุ่ม BTS และผู้ถือหุ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรองรับการเติบโตของบริษัทในแง่การจัดหาหนี้ด้อยคุณภาพจนถึงปี 66 ลดภาระต้นทุนทางการเงิน ปัจจุบัน Funding structure เป็นหุ้นกู้ระยะยาวกว่า 98% จึงมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/65 คาดอยู่ที่ 442 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 53% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 6% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากกองหนี้ที่ใหญ่ขึ้นหนุน Cash collection เติบโต

ขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SINGER ประเมินราคาเป้าหมาย 58 บาท ภาพรวมของ SINGER ราคาหุ้นปรับลงรับแรงกดดันหนักกว่ากลุ่มจากประเด็นเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หารือกาหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ใหม่ ในขณะที่ พอร์ตสินเชื่อ SINGER เป็นสัญญาประเภทจานาทะเบียนเจาะกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมีประเภทรถบรรทุกเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก การกาหนดเพดานดอกเบี้ยดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของ SINGER แต่อย่างใด

ด้าน Cost of fund บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนจากดีล BTS ราว 1 หมื่นล้านบาทเช่นกัน นำไปจ่ายคืนหุ้นกู้และใช้สาหรับขยายพอร์ตสินเชื่อปี 65-66 ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 พันล้านบาท ปัจจุบัน funding เกือบทั้งหมดมาจากหุ้นกู้ระยะยาวทั้งสิ้น ไม่มีเงินกู้จากสถาบันการเงิน ความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่ำ

โดยไตรมาส 2/65 คาดโต New high เติบโต 40% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 18% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ที่ 255 ล้านบาท เข้าสู่ High season เครื่องปรับอากาศอีกครั้ง ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยจะขยายตัวตามฐานพอร์ต นอกจากนี้การขยายฐานทุนโดยการ Spin-off บริษัทลูก SGC (ธุรกิจสินเชื่อทุกประเภท) เข้าตลาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หนุน funding สาหรับการขยายในปี 66-67

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปิดตลาดวันที่ (18 ก.ค.65) ราคาหุ้น JMART อยู่ที่ระดับ 44.50 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.56% สูงสุดที่ 45.25 บาท ต่ำสุดที่ 44.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 281.60 ล้านบาท, ราคาหุ้น JMT อยู่ที่ระดับ 69.50 บาท บวก 1 บาท หรือ 1.46% สูงสุดที่ 69.75 บาท ต่ำสุดที่ 68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 769.53 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้น SINGER อยู่ที่ 37.75 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.66% สูงสุดที่ 38.50 บาท ต่ำสุดที่ 37.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 165.37 ล้านบาท

Back to top button