QTC ประเดิมเปิด “EV Charging” ไตรมาส 3 ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 1.2 พันล้าน

QTC ลุยเปิด “EV Charging” 2 สถานีแรก ช่วงไตรมาส 3/65 ลุยทำตลาดเจาะฐานลูกค้า คาดทั้งปีทำยอดขายแตะ 50 ล้านบาท ส่วนงานหม้อแปลงมีลุ้นได้งานใหม่เพิ่มอีก 300-500 ล้านบาท หนุนทั้งปีรายได้เข้าเป้า 1,200 ล้านบาท


นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยถึงทิศทางภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรกมีการเติบโตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จากความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar และ Trina Solar, และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Inverterให้กับ Huawei ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง เริ่มหันมาให้ความสำคัญเรื่องการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้อัตราค่าไฟฟ้าปรับตัวขึ้นตาม ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องหันมาบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย เพื่อลดต้นทุนลง

ดังนั้นจึงส่งผลให้บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายโซลาร์เซลล์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 20% หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจการจำหน่ายโซลาร์เซลล์ และ Solar Inverter ประมาณ 250 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมียอดออเดอร์แล้วกว่า 150 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจรมากขึ้น มีการลงทุนในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ภายใต้บริษัทร่วมทุน “พีพีดับบลิวอี” (PPWE) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมการเปิด 2 สถานีแรกที่จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) ทั้งขาเข้า และขาออก

โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/2565 และเตรียมทยอยดำเนินการอีก 2 สถานี ภายในไตรมาส 4/2565 ซึ่งจะส่งผลให้ภายในปีนี้ จะมี EV Charging Station จำนวน 4 สถานี 12 หัวจ่ายตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ส่วนความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV แบรนด์ Wallbox นั้น ในไตรมาส 3/2565 จะทยอยดำเนินการตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจในการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อาทิ ที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า

รวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น โดยตั้งเป้ายอดขายในระยะแรกไว้ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งผลิตภัณฑ์ EV แบรนด์ Wallbox ถือเป็นแบรนด์ที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่างให้ความมั่นใจในคุณภาพ สามารถรองรับความต้องการได้ในระยะยาว และที่สำคัญการใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังสามารถช่วยในเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศอีกทางหนึ่ง เพื่อก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ได้ในอนาคต

นอกจากนี้ แนวโน้มอุตสาหกรรมธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ประกอบกับมาตรการเปิดประเทศ รวมถึงแผนนโยบายขับเคลื่อนการลงทุนของภาครัฐ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดยจะเห็นได้จากภาครัฐบาลและเอกชน มีการทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆ, โครงการทดแทนของเก่าที่หมดอายุโดยเปิดให้มีการประมูลงานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์การใช้หม้อแปลงไฟฟ้า

รวมถึงงานด้านบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าครึ่งปีหลังจะสามารถมีงานเข้ามาร่วม 300 – 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีออเดอร์ในมือ (Backlog) อยู่ที่ระดับ 410 ล้านบาท  ส่งผลให้บริษัทประเมินอัตราการเติบโตรายได้ในปี 2565 แตะระดับ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้

โดยในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูลและสินค้าในกลุ่มพลังงานให้กับกลุ่มลูกค้าได้รับทราบ หลังจากที่บริษัทมีการขยายการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง รวมถึงการเป็นตัวแทนการจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ธุรกิจ EV  ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงโอกาสในการต่อยอดธุรกิจสู่การเป็นผู้นำ “ด้านพลังงาน” ภายใต้การนำนวัตกรรมระบบหม้อแปลงไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Transformer Monitoring System) ที่มีการให้บริการแบบครบวงจรทุกมิติ ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้า Super low loss – โซลาร์เซลล์ – EV Charging Station และในเร็วๆ นี้พร้อมผลิต EV Charger ภายใต้แบรนด์ QTC อีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น  ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว

 

Back to top button