TLI เทรดวันนี้! ลุ้นเหนือจอง 16 บ. จับตาบวก 2% เบียดเข้า SET50 ทันที

“ไทยประกันชีวิต” หรือ TLI ผู้ประกอบธุรกิจประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย IPO เสนอขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย-อาเซียน ดีเดย์เข้าเทรดใน SET วันนี้ (25 ก.ค.65) ลุ้นวิ่งเหนือจองไอพีโอ 16.00 บาท เตรียมนำเงินระดมทุนกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ลุยขยายธุรกิจมุ่งสู่ Data Driven Company จับตาบวกเกิน 2%เข้าคำนวณดัชนี SET50 ตามเกณฑ์ Fast track ทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ค.2565 ) หุ้นสามัญของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต และเริ่มทำการซื้อขาย  25 ก.ค.2565

ทั้งนี้ TLI มีทุนชำระแล้ว 11,450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม 2,316.70 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน 850 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเดิมของบริษัท วี.ซี. สมบัติ จำกัด 1,166.58 ล้านหุ้น และ Her Sing (H.K.) Limited 138.49 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนหุ้นเกิน 161.63 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 16 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 37,067.18 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมูลค่าระดมทุน 13,600 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 183,200 ล้านบาท

นอกจากนี้นับเป็น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ในปี 2565 และเป็น IPO ของหุ้นในหมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับจากปี 2543  สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานที่มั่นคง และศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยมีบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ และมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

สำหรับ TLI เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ “ไทยประกันชีวิต” ซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนานกว่า 80 ปี มีส่วนแบ่งทางการตลาด (พิจารณาตามเบี้ยประกันภัยรับรวม) สูงเป็น 3 ลำดับแรกของประเทศ 12 ปีติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศจากเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิต กว่า 64,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีการจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันชีวิตของประเทศ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงิน องค์กรพันธมิตรชั้นนำและอื่นๆ ที่เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้า ตลอดจนได้รับการสนับสนุนทางธุรกิจจาก Meiji Yasuda Life Insurance Company (MY) ผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ (Strategic Shareholder) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นด้วย

ด้านนายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TLI เปิดเผยว่า การนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปลงทุนด้านเทคโนโลยี (Digital Transformation) เพื่อผลักดันบริษัทสู่การเป็น Data Driven Company รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการขายผ่านพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วในปัจจุบันให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างเงินกองทุนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบโจทย์การเป็นบริษัทประกันชีวิต  แห่งความยั่งยืนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับนักลงทุน และพร้อมดูแลเคียงข้างคนไทย

สำหรับ TLI มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มวี.ซี.สมบัติ ถือหุ้น 50.79% 2) Meiji Yasuda Life Insurance Company ถือหุ้น 15.00% 3) Her Sing (H.K.) Limited ถือหุ้น 6.19%

ทั้งการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จากการพิจารณาหลายปัจจัย หากพิจารณามูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) (เป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ประกันภัยเพื่อที่จะหามูลค่าผลประโยชน์ที่มีต่อผู้ถือหุ้นจากกรมธรรม์ที่ยังมีผลบังคับของบริษัทประกันชีวิต) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 เท่ากับ 142,277 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 10,600 ล้านหุ้น จะได้มูลค่าพื้นฐานของกิจการต่อหุ้น 13.42 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Price to Embedded Value Ratio : P/EV) ประมาณ 1.19 เท่า

นอกจากนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value Ratio : P/BV) ประมาณ 2.13 เท่า โดยพิจารณาจากส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565 ที่จะได้มูลค่าตามบัญชีสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 7.50 บาทต่อหุ้น

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเกณฑ์การเข้าคำนวณในดัชนี SET50 แบบ  Fast Track คือ มีมาร์เก็ตแคป ณ ราคาปิดของการเทรดวันแรกอยู่ใน 20 อันดับแรกของบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคบสูงสุด หรือ มีมาร์เก็ตแคปมากกว่า 1% ของตลาดหลักทรัพย์

โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 18.5 ล้านล้านบาท ดังนั้นหากสิ้นวันแรกของการซื้อขายหุ้น TLI แล้วราคาหุ้นปิดเพิ่มขึ้นมาเพียง 2% ก็จะทำให้ มาร์เก็ตแคปขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.86 แสนล้านบาท จะทำให้หุ้นสามารถเข้าคำนวณดัชนี  SET50 ทันที

Back to top button